บางครั้ง “คุณค่าของคนไม่ได้ขึ้นอยู่ที่อาชีพ” แต่มันอยู่ที่จิตใจของเราว่ามองเห็นสิ่งนั้นเป็นแบบใด เช่นเดียวกับชายจีนรายหนึ่ง ที่พกดีกรีจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ได้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการผันตัวสู่อาชีพ “ไรเดอร์ส่งอาหาร” จนกลายเป็นที่พูดถึงบนโซเชียล
(6 ก.ค. 68) สื่อต่างประเทศ ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดอึ้งของ ติง หยวนเฉา ชายสัญชาติจีนวัย 39 ปี ได้รับการขนานนามว่าเป็น “พนักงานส่งอาหารที่มีการศึกษาระดับสูงสุด” เนื่องจากตัวเขาเอง สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก อย่างมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
ติง หยวนเฉา ซึ่งเป็นชาวมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ได้เข้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติจีน (เกาเกา) เมื่อปีพ.ศ. 2547 จนได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชิงหัวด้วยคะแนนสุดทึ่งกว่า 700 คะแนน จากคะแนนเต็ม 750 คะแนน หลังจากสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีสาขาเคมีแล้ว ติงได้เข้ารับการศึกษาต่อที่ระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมพลังงาน มหาวิทยาลัยปักกิ่ง และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาชีววิทยา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ในประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ เขายังได้รับปริญญาโท สาขาความหลากหลายทางชีวภาพ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในอังกฤษอีกด้วย
ภายหลังจบการศึกษา ติงได้เข้าทำงานวิจัยในมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) ซึ่งสัญญาจ้างของเขาสิ้นสุดลงเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และได้ยื่นประวัติส่วนตัวและข้ารับการสัมภาษณ์มากกว่า 10 ครั้ง แต่กลับไม่สามารถหางานที่เหมาะสมได้
กระทั่งการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตคือ ติง ตัดสินใจสมัครเป็นพนักงานส่งอาหาร ในสิงคโปร์ โดยได้รับค่าจ้างประมาณ 700 เหรียญสิงคโปร์ (ราว 17,800 บาท) ต่อสัปดาห์ จากการทำงานวันละ 10 ชั่วโมง
“มันเป็นงานที่มั่นคง ฉันสามารถเลี้ยงครอบครัวด้วยรายได้นี้ ถ้าคุณทำงานหนัก คุณก็จะสามารถมีรายได้พอเลี้ยงชีพได้ มันไม่ใช่งานที่แย่” ติงกล่าวบนโซเชียลมีเดีย
“ข้อดีอย่างหนึ่งในการส่งอาหาร ก็คือคุณสามารถออกกำลังกายไปพร้อมกันได้”
ทั้งนี้ ติง หยวนเฉา ได้เปิดเผยว่า เขาเลือกที่จะไม่ทำงานเป็นครูสอนพิเศษให้กับนักเรียน เพราะรู้สึก “ขี้อายเกินกว่าจะหาลูกค้าด้วยตัวเอง” และในไม่กี่เดือนต่อมา ติงได้ย้ายกลับไปจีน และสานต่ออาชีพพนักงานส่งอาหารให้กับบริษัท Meituan ในปักกิ่ง ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชอปปิ้งชั้นนำ
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ผู้คนต่างเข้ามาแสดงความเห็นถึงเรื่องราวดังกล่าวอย่างล้นหลาม ทั้งในเชิงบวกและลบ พร้อมถูกตั้งคำถามว่า “แล้วจุดมุ่งหมายของการศึกษาที่ผ่านมาคืออะไร” หรือทางกลับกันคือ “การตัดสินของเขาไม่มีอะไรผิด อย่างน้อยเขาก็ไม่ยอมแพ้ในช่วงที่ชีวิตตกต่ำที่สุด”
วลี “ไม่เลือกไม่ยากจน” อาจไม่เกินจริงสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น และบ่งบอกถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่ไม่มีอะไรแน่นอน
ขอบคุณข้อมูล : SCMP