ในยุคที่ความท้าทายทางการเงินและเศรษฐกิจเริ่มก่อตัวขึ้น Citigroup ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างที่สำคัญภายใต้การนำของ เจน เฟรเซอร์ ซีอีโอของบริษัท แผนการดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์ทางการเงินที่ท้าทาย โดยมีเป้าหมายในการลดจำนวนพนักงานลง 10% ภายในปี 2026 ซึ่งสอดคล้องกับการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
การลดจำนวนพนักงานของ Citigroup ที่สูงถึง 20,000 ตำแหน่งนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากแต่จำเป็นในการนำบริษัทเข้าสู่ยุคใหม่และเผชิญหน้ากับสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน การลดลงของจำนวนพนักงานคาดว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทได้มากถึง 8.7 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม การปลดพนักงานไม่ได้มาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย มีการคาดการณ์ว่าบริษัทอาจจะต้องใช้เงินสำหรับการปลดพนักงานในระยะแรกถึง 3.4 หมื่นล้านบาทเพื่อชดเชยและปรับโครงสร้าง
นอกจากการปลดพนักงานในสหรัฐอเมริกาแล้ว มีแผนที่จะปลดพนักงานในธนาคารสาขาเม็กซิโกอีก 40,000 คนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO ความเคลื่อนไหวนี้ส่งผลให้บริษัทเหลือพนักงานเพียง 180,000 คนจากเดิมที่มี 240,000 คน มีการคาดการณ์ว่าการปลดพนักงานในลักษณะนี้อาจจะเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการในแต่ละภูมิภาค
เจน เฟรเซอร์ ผู้นำของ Citigroup ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นธรรม เธอกล่าวว่าการปลดพนักงานรอบนี้จะโฟกัสไปที่กลุ่มของผู้จัดการและตำแหน่งสูงอื่นๆ โดยเฉพาะ และจะพิจารณาถึงความสามารถและความต้องการของบริษัทเป็นหลัก เธอยังยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาว
การปรับโครงสร้างของ Citigroup นี้ถือเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอุตสาหกรรมการเงินโลก แม้ว่าจะมีผลกระทบต่อพนักงานจำนวนมาก แต่มีความคาดหวังว่าการเคลื่อนไหวนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถทนทานต่อความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต สิ่งที่ต้องจับตามองต่อไปคือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อ Citigroup ในประเทศไทย รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระดับโลกจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ข่าวน่าสนใจอื่น:
