สื่อต่างประเทศรายงานข่าว เม็กซิโก กำลังเผชิญกับปัญคลื่นความร้อนรุนแรง โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตติดต่อกันแล้ว 48 ราย นับตั้งแต่เดือน มี.ค. โดยรัฐบาลระบุเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พ.ค. ว่า ขณะที่นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าอนาคตข้างหน้าอุณหภูมิอาจจะสูงขึ้นกว่านี้จนได้บันทึกเป็นสถิติใหม่
ผลกระทบจากคลื่นความร้อนนี้ ทางกระทรวงสาธารณะสุข เม็กซิโก ระบุว่า มีผู้คนมากกว่า 950 ราย ได้รับผลกระทบในด้านสุขภาพทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่าเหตุการณืในปีนี้อาจจะรุนแรงซำร้อยกับปีที่แล้ว เนื่องจากในช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปี 2566 เม็กซิโก มีการรายงานผู้เสียชีวิตจากความร้อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 419 รายในฤดูร้อน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงตุลาคม
ด้าน ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ กล่าวถึงสภาพอากาศที่ร้อนในปีนี้ว่า “มันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิที่สูงและการไม่มีลมทำให้เกิดปัญหามลพิษในกรุงเม็กซิโกซิตี้รุนแรงขึ้น”
สำหรับเมืองหลวงของเม็กซิโกนั้นตั้งอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,240 เมตร (7,350 ฟุต) ทำให้มีอากาศอบอุ่นเป็นปกติ และมีบ้านเรือนเพียงไม่กี่หลังเท่านั้นที่มีเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ผลของคลื่นความร้อนยังทำให้กรุงเม็กซิโกซิตี้มีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 34.3 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่รัฐซานหลุยส์โปโตซี ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุณหภูมิสูงถึง 49.6 องศาเซลเซียส
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโกเตือนว่าอุณหภูมิอาจจะพุ่งสูงจนทำลายสถิติได้ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า “ปีนี้จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์” ฟรานซิสโก เอสตราดา ผู้ประสานงานโครงการวิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของมหาวิทยาลัยกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก : AFP