สืบจนเจอ แพทย์ เผย พบต้นตอสารก่อมะเร็ง จากของใช้ภายในบ้าน

สืบจนเจอ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน เผย พบต้นตอสารก่อมะเร็ง หรือ สารอะฟลาทอกซิน จากของใช้ในบ้านอย่างเขียงไม้ หลังมีครอบครัวหนึ่งป่วยมะเร็งทั้งบ้าน

ถือเป็นเรื่องราวที่น่าตกใจไม่น้อย หลังหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่งถูกตรวจพบว่าเธอป่วยด้วยโรคมะเร็ง แต่ไม่ใช่เพียงแค่เธอเท่านั้นเพราะก่อนหน้านี้ พ่อ และ พี่ชาย ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง รวมไปถึงสามีก็พึ่งจะตรวจเจอโรคมะเร็งตับระยะสุดท้ายเช่นกัน  

สื่อต่างประเทศได้รายงานข่าว ครอบครัวชาวจีนครอบครัวหนึ่งที่ทุกคนป่วยด้วยโรคร้ายอย่างมะเร็งเหมือนกันทุกคน โดยรายล่าสุด คือ นางหวัง 1 ในสมาชิกครอบครัวนี้ที่พึ่งถูกแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปอด แต่ที่น่าแปลกใจคือก่อนหน้านี้ พ่อของเธอก็เสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ และพี่ของเธอก็เสียชีวิตจากเนื้องอกในสมอง ส่วนสามีของเธอก็พึ่งจะตรวจพบมะเร็งปอด 

นางหวังเล่าว่า ก่อนหน้านี้สมาชิกทุกคนในครอบครัวใช้ชีวิตกันตามปกติ และก็ดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมทุกคนต้องป่วยด้วยโรคมะเร็ง ไม่ใช่แค่เธอที่สงสัยเท่านั้น แพทย์ ต่างก็สงสัยเช่นกันว่าสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งในครั้งนี้อาจไม่ใช่เพราะกรรมพันธุ์เพียงอย่างเดียว 

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการสืบสวน สอบสวน และศึกษาหาสาเหตุ พร้อมกับทำการทดลองอยู่หลายครั้งจนพบเจอกับสารก่อมะเร็งที่มีฤทธิ์รุนแรงอยู่ในของใช้ที่ทุกบ้านต้องมีนั่นก็คือ เขียงไม้ และตะเกียบไม้ไผ่ ที่นางหวังและครอบครัวใช้งานมาเป็นเวลานานโดยไม่มีการเปลี่ยนใหม่ โดยตรวจพบสารอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปะปนกับอาหาร ส่วนสาเหตุที่มีสารดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะไม่เคยทำความสะอาด ตากให้แห้ง และใช้งานมาเป็นเวลานานเกินไป 

โดยองค์การอนามัยโลก เผยว่า อะฟลาทอกซิน จัดอยู่ในกลุ่มของสารก่อมะเร็งชนิดที่ 1 มีลักษณะไม่มีกลิ่น ไม่มีรส และไม่มีสี มีค่าความเป็นพิษมากกว่าสารหนูถึง 68 เท่า และมีความเป็นพิษมากกว่าโพแทสเซียมไซยาไนด์ถึง 10 เท่า หากได้รับสารดังกล่าวนี้เข้าไปในร่างกายแม้เพียง 1 มิลลิกรัม ก็สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ หากได้รับมากถึง 20 มิลลิกรัม ก็อาจถึงตายได้เลย

ทั้งนี้ วิธีขจัดสารอะฟลาทอกซินที่อยู่บนเขียง หรือตะเกียบไม้นั้น สามารถทำได้โดยหมั่นทำความสะอาดเขียงเป็นประจำ ล้างด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำส้มสายชูแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง ส่วนตะเกียบไม้นั้นหากเป็นไปได้ควรเลือกใช้แบบใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง ส่วนเขียงหากใช้งานมานานแล้วก็ควรเปลี่ยนด้วยเช่นกัน 

ขอบคุณข้อมูลจาก : docnhanh