เห็นแล้วขนลุก ใครจะเดินทางไปไหน ระมัดระวังด้วยนะคะ โดยเฉพาะคนที่จะเข้าป่าเมื่อไม่นานมานี้ มีหนุ่มไต้หวันคนหนึ่งกลับจากไปเที่ยวเปรูแล้วมีอาการปากบวม ปวด ก่อนจะตรวจพบหนอนตัวเป็นๆ อ้วนจ้ำม่ำไต่ยั้วเยี้ยอยู่ในริมฝีปากถึง 3 จนต้องผ่าตัด
วานนี้ (23 ก.พ.67) ทาง Ettoday สื่อต่างประเทศ ได้เผยแพร่เรื่องราวของ นายเฉิน ชาวไต้หวัน วัย 33 ปี ที่ได้เดินทางไปประเทศเปรู เมื่อกลางเดือนตุลาคม ปี 66 ที่ผ่านมา หลังจากกลับบ้าน กลับมีอาการริมฝีปากบวมและปวดคล้ายโรคเริม
เขาจึงไปรักษาที่แผนกผิวหนัง ในคลินิกโรคผิวหนังแห่งหนึ่ง ได้ยาต้านไวรัส ยาฆ่าเชื้อ และขี้ผึ้งมารักษา แต่อาการไม่ดีขึ้น แพทย์จึงได้ทำการเพาะเชื้อแบคทีเรีย แต่ก็ยังไม่พบแบคทีเรียชนิดใด แพทย์จึงส่งตัวเขาย้ายไปแผนกศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล และได้ตรวจพบตัวอ่อนของหนอนในริมฝีปากเขา
นพ. หลิว ชองจี ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล เล่าว่า หลังจากการตรวจ พบว่า นายเฉินมีบาดแผล 3 แผล มีสารคัดหลั่ง และมีสัญญาณการเคลื่อนไหวของวัตถุที่คลุมเครือ เนื่องจากมีเส้นเลือดใหญ่อยู่รอบริมฝีปากจึงชนกันได้ง่ายทำให้เกิดเลือดออก เพื่อความปลอดภัย แพทย์จึงได้ทำการผ่าตัดนำหนอนแมลงตัวเป็นๆ ขนาด 2.5 ซม. กว่า 3 ตัว ออกจากปากเขา แล้วส่งหนอนแมลงไปตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อจำแนกอย่างเป็นระบบโดยภาควิชากีฏวิทยาแห่งชาติไต้หวัน
ศาสตราจารย์ เซียว ซู่เฟิง เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ ยืนยันว่าเป็นตัวอ่อนของหนอนแมลงตัวเบียน (Dermatobia hominis หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ Botfly) ซึ่งเป็นหนอนหายาก มีการขยายพันธุ์ส่วนใหญ่ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ มักอาศัยอยู่ในป่าเขตร้อนชื้นและพื้นที่ราบลุ่มที่เป็นป่าไม้
โดยบาดแผลที่เกิดจากไข่ของหนอนแมลงตัวเบียนนั้น ในตอนแรกมีลักษณะเหมือนแมลงกัดต่อย บวมแดงบนผิวหนัง อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดและคันเป็นระยะๆ ในเวลากลางคืนเนื่องจากการคลานของตัวแมลง หากเป็นปรสิตบนหนังศีรษะหรือใบหน้าจะมีอาการเจ็บปวดรุนแรงเนื่องจากชั้นกล้ามเนื้อมีความบางเกินไป
เห็นแล้วขนลุกเลยค่ะ ยังไงก็ระมัดระวังกันด้วยนะคะ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: Ettoday