วานนี้ (31 มี.ค. 63) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียนนา รายงานสรุปสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน ประเทศออสเตรีย ประเทศสโลวาเกีย และประเทศสโลวีเนีย โดยมีรายละเอียดดังนี้
– จำบวนผู้ติดเชื้อ สถานะตามเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขสโลวาเกีย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 รวม 363 คน (เพิ่มขึ้น 27 คน) โดยกรุงบราติสลาวา มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด จำนวน 106 คน เข้ารับการตรวจ 8,220 คน รักษาหาย 2 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยประเทศสโลวาเกีย มีมาตรการเพิ่มเติมของรัฐบาลคือ กระทรวงคมนาคมประกาศขยายระยะเวลาห้ามเที่ยวบินพาณิชย์ทำการบินออกไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2563 แต่เที่ยวบินขนส่งสินค้า และเครื่องบินส่วนตัวยังสามารถทำการบินได้
ภาพจากอีจัน
– จำนวนผู้ติดเชื้อ ตามสถานะตามเว็บไซต์สถาบันสาธารณสุขแห่งสโลวีเนีย วันที่ 31 มีนาคม 2563 รวม 802 คน ชาย 387 คน หญิง 415 คน เพิ่มขึ้น 46 คน ซึ่งแบ่งตามจังหวัดต่างๆ ดังนี้
Osrednjeslovenska 270 คน / Jugovzhodna Slovenija 98 คน / Savinjska 158 คน / Podravska64 คน / Gorenjska 54 คน / Primorsko-notranjska 28 คน / Koroska 34 คน / Obalno-kraska 17 คน / Pomurska 39 คน / Goriska 11 คน / Posavska 9 คน / Zasavska 14 คน โดยมีผู้รับการตรวจทั้งสิ้น 22,474 คน มีผู้เสียชีวิต 13 ราย
มาตรการเพิ่มเติมของรัฐบาลประเทศสโลวีเนีย คือ สืบเนื่องจากมาตรการห้ามการเดินทางระหว่างเมืองที่รัฐบาลประกาศใช้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติสโลวีเนีย แนะนำให้ผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางระหว่างเมืองตามข้อยกเว้น (ไปทำภารกิจทางการ ทำงาน ไปธุระจำเป็น ฯลฯ) ควรพกเอกสารที่เป็นหลักฐานแสดงถึงเหตุจำเป็นดังกล่าวติดตัวไปด้วย เพื่อแสดงต่อตำรวจหากถูกเรียกตรวจ
ภาพจากอีจัน
จำนวนผู้ติดเชื้อ ตามสถานะเว็บไซต์ กระทรวงสาธารณสุขออสเตรีย วันที่ 31 มีนาคม 2563 เวลา 15.00 น. รวม 9,974 คน เพิ่มขึ้น 597 คน แบ่งตามรัฐ ดังนี้ กรุงเวียนนา 1,378 คน รัฐออสเตรียล่าง 1,616 คน รัฐทิโรล 2,323 คน รัฐสติเรีย 1,049 คน รัฐชาลส์บวร์ก 911 คน รัฐบวร์เกนลันด์ 182 คน รัฐออสเตรียบน 1,596 คน รัฐฟอร์ลราลแบร์ก 646 คน และรัฐคารินเรีย 273 คน โดยเข้ารับการตรวจจำนวน 52,344 คน รักษาหาย 1,095 คน เสียชีวิต 128 คน
ภาพจากอีจัน
– โดยมาตรการเพิ่มเติมของรัฐบาลออสเตรียคือ รัฐบาลฯ อนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ทำงานในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวในเมือง Landeck และ lmst รัฐทิโรล ซึ่งเป็นเขตกักตัว สามารถเดินทางออกจากพื้นที่ได้ก่อนวันที่ 13 เมษายน 2563 โดยต้องให้สถานเอกอัครราชทูต ยื่นเรื่องขออนุญาตผ่านกรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งต้องมีเอกสารยืนยันจากประเทศของผู้จะเดินทางออกที่ระบุว่ามีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศดังกล่าว รวมทั้งสามารถเดินทางผ่านประเทศที่สามอื่นๆ ได้ โดยต้องเดินทางออกจากออสเตรียทันที ไม่หยุดพักระหว่างทาง และใช้เส้นทางที่สั้นที่สุด
– รัฐบาลอนุโลมให้ใช้วัสดุอื่นๆ เช่น ผ้าพันคอมาปิดปากปิดจมูก เมื่อเข้าร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป และในชั้นนี้ให้ร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคแจกหน้ากากให้ลูกค้า ซึ่งหอการค้าออสเตรีย บริษัท Nah&Frisch และสมาคมผู้ค้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า หากเป็นเช่นนั้น ร้านค้าควรได้รับเงินชดเชยคืนสำหรับค่าหน้ากากที่แจกจ่ายให้กับลูกค้า
– ประกาศเพิ่มเติมของรัฐชาลส์บวร์ก ให้เมือง Altenmarkt im Pongau / Zell am See และ Saalbach-Hinterglemm เป็นเขตกักตัว ห้ามการเดินทางเข้า-ออกโดยเด็ดขาด
- กทม. งดเก็บค่าเช่าแผงตลาด 11 แห่ง
- กรมควบคุมโรค เตือน ดื่มแอลกอฮอล์ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้
- สุริยะ สั่งแจกหน้ากากผ้า 10 ล้านชิ้นให้ ปชช. เริ่มล็อตแรก 1 ล้านชิ้น 11 เม.ย. 63