(22 เม.ย. 63) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า บทความวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารโรคทางเดินอาหารและตับแลนเซต (Lancet Gastroenterology and Hepatology) เมื่อไม่นานนี้ เปิดเผยว่าคณะนักวิจัยพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่มีอาการท้องร่วง มีแนวโน้มของอาการปอดอักเสบรุนแรงกว่าผู้ป่วยที่ไม่มีอาการท้องร่วง
คณะนักวิจัยจากโรงพยาบาลแห่งที่ 6 และสถาบันวิจัยโรคทางเดินอาหาร สังกัดมหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น ได้ร่วมกันตรวจสอบลำไส้ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 จากศูนย์การแพทย์หลายแห่งในจีน พวกเขารวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ป่วย 232 ราย ที่มีผลทดสอบโรคโควิด-19 เป็นบวก และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 14 แห่งในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) หูเป่ย และเจียงซี ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 63 ถึง 6 มี.ค. 63 โดยไม่ได้วิเคราะห์ผู้ป่วย 2 ราย ที่เป็นโรคระบบทางเดินอาหารอยู่ก่อนแล้ว
- ผอ.ควบคุมโรค สหรัฐฯ เผย โควิดระลอกสองช่วงหน้าหนาว จะร้ายแรงกว่าที่ผ่านมา
- อนามัยโลก ยัน ต้นตอโควิด-19 ไม่ได้ดัดแปลง-สร้างจากแล็บ แต่มาจากสัตว์
- เช็กด่วน!!! ข้าวสารบรรจุถุง 18 ยี่ห้อ ลดราคาสูงสุด 50% เริ่ม22 เม.ย. -30 มิ.ย. 63
บทความระบุว่า อาการแรกเริ่มที่พบได้บ่อยที่สุดของผู้ป่วยกลุ่มนี้ ได้แก่ มีไข้ ไอ และมีเสมหะ ส่วนอาการท้องร่วงพบในผู้ป่วย 49 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 21 ของผู้ป่วยทั้งหมด และพบว่าผู้ป่วยที่มีอาการท้องร่วงมีอายุมากกว่าและมีแนวโน้มจะมีภาวะโรคร่วมมากกว่าผู้ป่วยที่ไม่มีอาการท้องร่วง คณะนักวิจัยยังพบว่าผู้ป่วยที่มีอาการท้องร่วง มีอาการปอดอักเสบรุนแรงกว่าผู้ที่ไม่มีอาการท้องร่วง และแม้อาการท้องร่วงจะไม่มีความเกี่ยวโยงกับการรักษาด้วยออกซิเจน แต่สัดส่วนของผู้ป่วยที่มีอาการท้องร่วงที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยหนักนั้นมีจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี คณะนักวิจัยไม่ได้สังเกตความสัมพันธ์ระหว่างอาการท้องร่วงกับการใช้ยาต้านไวรัสหรือยาปฏิชีวนะ และดำเนินการวิเคราะห์โดยไม่ได้พิจารณาข้อมูลความชุกของผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ รวมถึงชี้ว่าเป็นที่ทราบกันดีว่ายาบางรายการ อาทิ ยาต้านไวรัส ยาโลพินาเวียร์ (Lopinavir) และยาริโทนาเวียร์ (Ritonavir) ส่งผลให้เกิดอาการท้องร่วงได้