(21 เม.ย.63) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ที่ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) บริษัทสตรีมมิงออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดการสมัครสมาชิกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีลูกค้าใหม่ถึง 15.77 ล้านรายในไตรมาสแรกของปี 2020 หลังผู้คนทั่วโลกต้องเก็บตัวอยู่บ้านท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ภาพจากอีจัน
- ครม.ไฟเขียว มาตรการลดค่าไฟ 3 เดือน ช่วย ปชช.ฝ่าโควิด
- ผลตรวจชี้ชัด หนุ่มเชียงรายหายโควิดเเล้ว ไม่ติดเชื้อซ้ำ
- จังหวัดเชียงรายไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 22 วันแล้ว
เน็ตฟลิกซ์ ระบุว่า ปัจจุบันมีสมาชิกที่สมัครแบบชำระเงินจากกว่า 190 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก จำนวน 182.86 ล้านราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.8 จากปีก่อนหน้า และรายได้รายไตรมาส 5.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.87 แสนล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อเทียบกับ 4.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.46 แสนล้านบาท) ในไตรมาสแรกของปี 2019
อย่างไรก็ดี จดหมายถึงผู้ถือหุ้นของเน็ตฟลิกซ์ ชี้ว่า วิกฤตโรคระบาดใหญ่ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพการเงิน 3 ประการ
“ประการที่ 1 จำนวนผู้สมัครใช้บริการเพิ่มขึ้นรวดเร็วเป็นการชั่วคราวเนื่องจากผู้คนกักตัวอยู่ในที่พัก
ประการที่ 2 รายได้ระหว่างประเทศจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
และประการที่ 3 เนื่องจากการผลิตต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้ไม่มีการใช้งบประมาณบางส่วน ซึ่งช่วยปรับปรุงกระแสเงินสด อิสระของบริษัท และการเปิดตัวซีรีส์หรือภาพยนตร์บางเรื่องถูกเลื่อนออกไปอีกไตรมาส”
“ในประวัติศาสตร์กว่า 20 ปีของเน็ตฟลิกซ์ เราไม่เคยเจออนาคตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนหรือความไม่มั่นคงมากขนาดนี้ โรคโควิด-19 ทะยานไปทั่วทุกมุมโลก และปัจจุบันที่ยังไม่มีหนทางรักษาหรือวัคซีนที่สามารถใช้ได้อย่างแพร่หลาย เราจึงไม่มีทางรู้เลยว่าวิกฤตครั้งนี้จะจบลงอย่างไรและเมื่อไหร่”
“ที่เน็ตฟลิกซ์ เราทราบดีว่าพวกเราโชคดีที่สามารถมอบบริการอันมีคุณค่าให้แก่ผู้คนที่จำเป็นต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน นอกจากนั้นเรายังสามารถทำงานทางไกลได้โดยพบปัญหาติดขัดเพียงเล็กน้อยในระยะสั้นถึงระยะกลาง” จดหมายระบุ
ทั้งนี้ ฟลิกซ์คาดการณ์ว่ายอดสมาชิกที่สมัครแบบชำระเงินทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 7.5 ล้านรายในไตรมาสสองของปีนี้ เนื่องจาก “ความคืบหน้าในการรับมือกับโรคระบาดจะทำให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการกักตนเองที่บ้านเร็วๆ นี้