วานนี้ (23 เม.ย.2563) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าออสเตรเลียรายงานยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รวม 6,654 ราย นับถึงวันที่ 23 เม.ย.2563 เพิ่มขึ้นเพียง 7 ราย หรือร้อยละ 0.1 จาก 6,647 รายของวันที่ 22 เม.ย.2563 โดยนับเป็นยอดผู้ป่วยรายใหม่ที่น้อยที่สุดของประเทศนับตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.
สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียว่าออสเตรเลียบรรลุ “ความคืบหน้าที่ดี” ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 และอยู่ “ระหว่างเดินทางกลับ” สู่สภาพเศรษฐกิจที่อยู่ใน “ระดับปลอดภัยจากโควิด” หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
ส่วนยอดผู้ป่วยเสียชีวิตของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น 74 ราย แต่มอร์ริสันเตือนว่าตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หากชาวออสเตรเลีย “ไม่ระแวดระวัง”
- ชาวบุรีรัมย์เฮ! 1 พ.ค.นี้ เตรียมเปิดเมือง ใครเข้า-ออก ต้องมีสติ๊กเกอร์ Buriram Healthy
- อู่ฮั่นเปิดบริการ ‘ขนส่งสาธารณะ’ ทั้งหมด พร้อมเฝ้าระวังโควิด-19
- หมอมนูญเเนะร้านอาหาร เว้นระยะห่าง งดเปิดเเอร์ ให้อากาศถ่ายเท งดการเเพร่เชื้อ
ภาพจากอีจัน
“เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากเราไม่ระมัดระวัง นั่นคือเหตุผลที่ชาวออสเตรเลียและรัฐบาลระมัดระวังอย่างมากในการสร้างสมดุลระหว่างความจำเป็นต่างๆ เพื่อนำพาเศรษฐกิจกลับสู่ระดับปลอดภัยจากโควิด” ด้านเบรนดัน เมอร์ฟี (Brendan Murphy) หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของออสเตรเลีย ประกาศว่ายังไม่พิจารณาการผ่อนปรนข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ “ในอนาคตอันใกล้”
ทั้งนี้ ออสเตรเลียออกคำสั่งห้ามพลเมืองเดินทางระหว่างประเทศตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. โดยเมอร์ฟีย์ชี้แจงระหว่างการซักถามของรัฐสภาถึงการรับมือโรคระบาดของรัฐบาลว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่นำไปสู่การผ่อนปรนมาตรการข้างต้นถือเป็นเรื่อง “เสี่ยงมากๆ”
“การแพร่ระบาดในระดับโลกอยู่ในระดับสูงมาก รวมถึงการระบาดในบางประเทศ ซึ่งเราทราบว่ามีแนวทางการตรวจโรคที่ไม่ดีนัก ตลอดจนภูมิภาคของเราเองด้วย”