ญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวรุนแรง 7.6 แมกนิจูดในช่วงบ่ายวันปีใหม่ (1 ม.ค.67) ที่ภาคกลางของประเทศ ทำให้เกิดความวิตกกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายฝั่ง รัฐบาลได้เรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่อพยพทันที หลังจากมีการคาดการณ์ว่าจะมีคลื่นสึนามิตามมา
ตามรายงานจาก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น แผ่นดินไหวเริ่มจากแรงสั่นสะเทือนขนาด 5.7 ก่อนที่จะปรากฏการสั่นสะเทือนขนาด 7.6 และมีการสั่นสะเทือนอีกหลายครั้งภายในหนึ่งชั่วโมง ส่งผลให้เกิดความเสียหายและความวิตกกังวลในหมู่ประชาชน
ทางการได้ประกาศคำเตือนสึนามิสำหรับจังหวัดนีงาตะ และโทยามะ พร้อมทั้งเตือนว่าคลื่นสูงถึง 3 เมตรอาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายฝั่งโนโตะในอิชิกาวะ ทางโทรทัศน์สาธารณะของญี่ปุ่นได้แจ้งเตือนให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่หนีไปยังที่สูง โดยไม่ต้องห่วงเรื่องทรัพย์สิน
ทั้งนี้ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น โยชิมาสะ ฮายาชิ ได้เตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมสำหรับแผ่นดินไหวอาฟเตอร์ช็อก ขณะที่บริษัทพลังงานไฟฟ้าคันไซยืนยันว่า ไม่มีความผิดปกติในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้และรัสเซียก็ได้ออกคำเตือนสึนามิเช่นกัน โดยเกาหลีใต้ระบุว่า อาจมีคลื่นสูงถึง 0.3 ม. กระทบชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ส่วนรัสเซียได้ออกคำเตือนสึนามิในเมืองท่าตะวันออกไกลอย่างวลาดิวอสต็อกและนาคโฮดกา
อย่างไรก็ตาม การแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้หลายคนนึกถึงเหตุการณ์สึนามิและแผ่นดินไหวขนาด 9.0 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นในปี 2011 ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 18,000 คนและทำให้หลายหมื่นคนต้องพลัดถิ่น นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์เชอร์โนบิล ที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ
สถานการณ์ในญี่ปุ่นยังคงอยู่ในขั้นติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่กำลังประเมินความเสียหายและเตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้ ชุมชนระหว่างประเทศและองค์กรการกุศลต่างพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทุกทางเพื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตครั้งนี้
สำหรับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง ขณะที่ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติต่างเร่งเข้าช่วยเหลือและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อเวลา 10.01 น. ของวันนี้ (2 ม.ค.67) ตามเวลาญี่ปุ่นซึ่งเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ยกเลิกประกาศให้เฝ้าระวังการเกิดคลื่นสึนามิในทุกพื้นที่ของญี่ปุ่นแล้ว
อย่างไรก็ดี อาจมีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลอย่างต่อเนื่อง ทางการญี่ปุ่นจึงประกาศเตือนให้ชาวประมงใช้ความระมัดระวังในการออกเรือ รวมทั้งในช่วงสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะ 2-3 วันข้างหน้า กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นยังให้เฝ้าระวังเหตุแผ่นดินไหวที่จะยังคงมีตามมาเป็นระยะ (aftershocks)
ในการนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ดังกล่าวและนักท่องเที่ยวไทยโปรดดูแลรักษาตัวและเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยติดตามข่าวสารของทางการญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง กรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ HOTLINE +8190-4435-7812
ด้าน นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ได้กล่าวในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันที่ 2 ม.ค.67 ถึงความเร่งด่วนในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในจังหวัดอิชิคาวะ โดยเน้นย้ำว่า เป็นการแข่งขันกับเวลาในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ทางการได้ระบุว่า กองกำลังป้องกันตนเองมีความท้าทายอย่างมากในการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย โดยเฉพาะที่ปลายตอนเหนือของคาบสมุทรโนโตะ ซึ่งถนนถูกทำลายจนไม่สามารถใช้งานได้ และมีรายงานเหตุเพลิงไหม้และความเสียหายของอาคารและโครงสร้างพื้นฐานอย่างกว้างขวาง
นายกรัฐมนตรีคิชิดะ ได้สั่งการให้กองกำลังป้องกันตนเองดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่ในอาคารที่อาจจะพังทลายได้ทุกเมื่อ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและตำรวจหลายพันนายจากทั่วประเทศเพื่อเข้าช่วยเหลือในพื้นที่คาบสมุทรโนโตะ
อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยถูกขัดขวางจากถนนที่เสียหายอย่างรุนแรง และสนามบินบางแห่งในพื้นที่ประสบภัยต้องปิดทำการชั่วคราว เช่นเดียวกับการระงับการให้บริการรถไฟและเที่ยวบินจำนวนมาก
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 8 รายในเมืองวาจิมะ ใกล้จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ขณะที่ในเมืองซูซู มีรายงานว่าแพทย์บางคนไม่สามารถเข้าถึงโรงพยายาบาลได้ ส่งผลให้โรงพยาบาลต้องพึ่งพาเครื่องปั่นไฟสำรองเพื่อให้บริการได้ต่อเนื่อง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 6 ราย ในขณะที่หน่วยงานบริหารจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติรายงานว่ามีผู้ที่อยู่ในภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันถึง 19 ราย
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้สั่งให้ประชาชนกว่า 97,000 คนอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเองในคืนวันที่ 1 มกราคม เพื่อความปลอดภัย โดยพวกเขาได้รับการส่งตัวไปยังศูนย์อพยพฉุกเฉินที่จัดตั้งขึ้นในศูนย์กีฬาและโรงยิมของโรงเรียนหลายแห่ง หลายคนได้เดินทางกลับบ้านในวันที่ 2 มกราคม หลังจากที่คำเตือนสึนามิถูกยกเลิก
รายงานข่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอันเข้มข้นของรัฐบาลญี่ปุ่นในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และยังเป็นการเตือนใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีการเตรียมตัวและตอบสนองได้อย่างเหมาะสมในสถานการณ์เช่นนี้.