
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 66 สื่อต่างประเทศรายงานเรื่องราวของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา หลังตกเป็นประเด็นพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อครอบครัวหนึ่งได้โพสต์ข้อความ เล่าถึงเหตุการณ์ที่โดนร้านอาหารแห่งนี้ชาร์จค่าบริการเพิ่มกว่า 50 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1,800 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่าลูกๆ ของพวกเขาส่งเสียงดัง
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นกับ ลินซีย์ และ ไคล์ แลนด์มันด์ คู่สามี-ภรรยาชาวฟอริดา ใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์พาครอบครัวไปทานอาหารที่ร้าน Toccoa River Restaurant ตั้งอยู่ที่บลูริดจ์ รัฐจอร์เจีย พร้อมกลับครอบครัวอื่นซึ่งเป็นญาติๆกัน โดยนอกจกาผู้ใหญ่แล้วก็มีเด็กๆ รวมอยู่ประมาณ 11 คน ซึ่ง ไคล์ แลนด์มันด์ ก็ได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ที่ไม่ดีนักเกี่ยวกับร้านอาหารแห่งนี้ ว่า "มันเป็นประสบการณ์ที่น่าผิดหวังมากๆ เจ้าของร้านเดินมาบอกกับผมว่า จะต้องขอเก็บเงินเพิ่มอีก 50 ดอลลาร์ ในบิลของผม เหตุเพราะพฤติกรรมของลูกๆผม ใช่เขาเขียนมาแบบนี้ แต่ขณะที่ลูกๆของผมนั้น นั่งดูแต่แท็บเล็ตจนกระทั่งอาหารมาถึง และก็นั่งทานอาหารกันตามปกติ ก่อนที่ภรรยาของผมจะพาเด็กๆออกไปเดินข้างนอก เหลือเพียงผมที่นั่งรอจ่ายบิล" ไคล์ กล่าว
หลังจากทานของหวานเสร็จสิ้น พ่อแม่บางคนก็พาลูกๆ ลงไปเล่นน้ำ และนั่นคือตอนที่เจ้าของร้านอาหาร ทิม ริชเชอร์ เดินเข้ามาหาที่โต๊ะอาหาร พร้อมบอกเกี่ยวกับค่าบริการเพิ่มเติมในเมนู ซึ่งมีข้อความว่า ค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่ : สำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ปกครองและไม่สามารถดูแลบุตร-หลานได้
อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวแลนด์มันด์ได้ขอคำอธิบายกับ ริชเชอร์ ก่อนจะได้รับคำตอบว่า เพราะเด็กๆ เสียงดังเกินไป "เขาคงจะรู้สึกโกรธที่เด็กๆวิ่งเล่นไปข้างนอก แม้ว่าจะมีผู้ใหญ่คอยดูแลอยู่ก็ตาม เขาจ้องหน้าเราแล้วบอกแบบนั้น พร้อมกับบอกอีกว่า เราควรไปอยู่ในร้านเบอร์เกอร์คิงส์ ไม่ใช่ร้านของเขา เราพยายามที่จะขอคุยกับเจ้าของ แต่เขาก็ตอบมาว่า เขานี่แหละเจ้าของร้าน ตอนนั้นทุกคนในร้านต่างก็จับจ้องมาที่โต๊ะของเราเพราะเขากำลังตะโกนอยู่ด้วยเสียงที่ดัง
ส่วน ลินซีย์ ภรรยาของ ไคล์ ก็เผยว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์นี้ พร้อมกับยืนยันว่าลูกๆของเธอนั้นมีพฤติกรรมที่ดีมาก "เด็กๆนั่งอยู่ที่มุมโต๊ะอีกด้านหนึ่ง และทุกอย่างก็ดูปกติดี ฉันยังพูดระหว่างทานอาหารเลยว่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กๆเรียบร้อยกันมากวันนี้"
ด้าน ทิม ริชเชอร์ เจ้าของร้านได้เผยกับสื่ออย่าง Channel 2 News ว่า เขาเพิ่งเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมแบบนี้หลังการระบาดของโรคโควิด 19 ผมไม่เคยคิดจะเอากฎนี้มาขู่ใครเลย จนกระทั่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน มีครอบครัวใหญ่มาที่ร้านซึ่งมีเด็กๆถึง 9 คน และวิ่งไปทั่วร้านอาหาร ซึ่งจริงๆผมแค่ต้องการจะตักเตือน ผมแค่ต้องการให้เขาเป็นพ่อแม่ ที่เป็นพ่อแม่แบบจริงๆที่ดูแลลูกได้ก็เท่านั้น
ทั้งนี้ ความเห็นอื่นๆในเว็บไซต์ Google ก็ได้วิจารณ์คุณภาพของการบริการและทัศนคติของเจ้าของ พร้อมเตือนผู้ที่มารับประทานอาหารพร้อมเด็กให้หลีกเลี่ยง อย่างคอมเมนต์หนึ่ง ระบุว่า "เราเป็นผู้ใหญ่สามคน มีเด็ก 2 คน และเด็กเล็กอายุ 4 เดือน ตั้งแต่เราเข้าไปในสถานที่นั้น พวกเขาก็ทำให้เราดูแย่ ต่อมาภรรยาของฉันกำลังโยกเด็ก (ไม่ได้ร้องไห้เพียงเพื่อให้เขาหลับ) และ ผู้จัดการคนนี้ก็บอกเธอว่าคุณอย่าทำอย่างนั้นในร้านอาหารหรู ๆ (แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ร้านอาหารที่หรูหรา) แล้วจึงย้ายรถเข็นเด็กของเราออกไป"
แต่ก็มีบางความคิดเห็นที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของครอบครัวที่มีเด็กว่า "ฉันก็เคยทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่นี่ ทิป 5 ดอลลาร์ ที่ได้รับนั้นมันไม่คุ้มกับการปวดหัวเมื่อต้องฟังลูกๆ ของแต่ละครอบครัวกรีดร้อง ขว้างอาหาร ทิ้งขยะบนโต๊ะหรือโยนใส่ใครบางคน ทำไมถึงไม่ควบคุมลูกของคุณให้ดี! หรือไม่ก็ทานที่บ้านซะ!
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.dailymail.co.uk