ความสมดุลของเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ!
เมื่อวันที่ 24 ส.ค.66 เว็บไซต์ wionews รายงานว่า สมาชิกในครอบครัวของแพทย์ชาวญี่ปุ่นวัย 26 ปี ซึ่งฆ่าตัวตายเมื่อปีที่แล้ว อ้างว่าความไม่สมดุลระหว่างชีวิต การทำงานและการทำงานล่วงเวลามากกว่า 200 ชั่วโมงทุกเดือน ส่งผลกระทบจนทำให้หมอหนุ่มตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยพวกเขาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการทำงานหนักเกินไป ซึ่งเกาะกินชีวิตของคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
รายงานข่าวระบุว่า นางจุนโกะ ทาคาชิมา มารดาของนายแพทย์ชินโกะ ทาคาชิมา วัย 26 ปี แพทย์ประจำบ้านแห่งโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์โคนัน ในเมืองโกเบ ที่ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองเมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว ได้ออกมาแถลงข่าวในเมืองโอซากาเมื่อวันที่ 18 ส.ค.66 ว่า สาเหตุที่ลูกชายของเธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง มาจากการต้องทำงานหนักและอยู่ในสังคมการทำงานที่ย่ำแย่มาตลอด โดยต้องทำงานล่วงเวลาถึง 207 ชั่วโมงใน 1 เดือน ไม่ได้มีวันหยุดเลยตลอด 3 เดือน
นางจุนโกะเรียกร้องให้สังคมการทำงานของญี่ปุ่นตระหนักถึงภัยร้ายของวัฒนธรรมการทำงานล่วงเวลา และค่านิยมการทำโอทีหลังเลิกงาน
ขณะที่ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์โคนัน ออกมาแถลงปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าแพทย์ของโรงพยาบาลมีอิสระในการทำงานที่สูงมาก บางคนหาเวลานอนพักผ่อนในเวลางาน ทำให้ยากที่จะนับเวลางานได้อย่างแม่นยำ การออกมาแถลงของโรงพยาบาลมีขึ้นหลังจากคณะสืบสวนของกระทรวงแรงงาน เปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตของนายแพทย์ชินโกะ ทาคายามา ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการทำงาน เนื่องมาจากการทำงานหลายชั่วโมงติดต่อกัน
ทั้งนี้ หากคำนวณช่วงเวลา 1 เดือนเป็นชั่วโมง = 30 วัน x 24 ชั่วโมง ได้จำนวนเวลา 720 ชั่วโมง
เวลาการทำงานปกติของบริษัททั่วไป คือ 8 ชั่วโมง/วัน ทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน = 40 ชั่วโมง หรือทำงานรวม 4 สัปดาห์ 160 ชั่วโมง/เดือน ซึ่งน้อยกว่าจำนวนชั่วโมงที่คุณหมอญี่ปุ่นรายนี้ทำงานล่วงเวลาซึ่งอยู่ที่ 200 ชั่วโมง/เดือน
เมื่อคิดรวมกับการทำงาน 8 ชั่วโมง ใน 30 วัน = 240 ชั่วโมง
สรุป เมื่อบวกรวมเวลาทำงานทั้งหมดของหมอหนุ่มรายนี้ คือ 240+207 = 447 ชั่วโมง เป็นชั่วโมงการทำงานที่มากกว่าเวลาการทำงานของคนทั่วไปถึง 2.79 เท่า
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : https://www.wionews.com/world/japan-family-of-young-doctor-claims-working-overtime-for-more-than-200-hours-took-his-life-628758
https://mainichi.jp/english/articles/20230819/p2a/00m/0na/017000c