ไขข้อมูล UFO วัตถุปริศนาที่ทำให้เข้าใกล้ตัวตนการมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาว

ไขความลับทฤษฎีสมมติฐานกับหลักฐาน UFO วัตถุปริศนาที่อาจทำให้เราเข้าใกล้การมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาว เรื่องราวที่อาจไม่ใช้แค่นิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป

ช่วงนี้กระแสUFOและมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องที่ทั้งไทยและต่างประเทศถูกให้ความสนใจอีกครั้ง ด้วยที่ว่ามีการพบวัตถุบนท้องฟ้าที่ไม่สามารถระบุได้ หรือยูเอฟโอ (UFO)  โดยเมื่อไม่นานมานี้ข่าวโด่งดังที่ทางการสหรัฐฯได้ทำการยิงทำลายวัตถุบินปริศนาที่ลอยอยู่บนน่านฟ้าอะแลสกา(Alaska) โดยมีขนาดเท่ากับรถยนต์หนึ่งคันเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ทั่วโลกต่างจับตาดูสถานการณ์นี้กันอย่างแปลกประหลาดใจ เราจะตามลอยเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวที่อ้างถึงวัตถุบนท้องฟ้าที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าจะเป็นยูเอฟโอ (UFO) หรือไม่ ?

UFO คืออะไร ?

คำว่า ยูเอฟโอ (UFO) ย่อมากจาก Unidentified Flying Object หรือสามารถแปลเป็นไทยได้ว่าวัตถุผิดปกติที่มองเห็นบนท้องฟ้า ซึ่งไม่สามารถระบุได้ในทันทีว่าเป็นวัตถุหรือปรากฏการณ์ใด (unidentified flying object) หรือจะเรียกง่ายๆว่า “จานบินของมนุษย์ต่างดาว”ก็ได้เช่นกัน ซึ่งคำว่า “ยูเอฟโอ” นั้น ถูกใช้ในปีพ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953) โดยทางกองทัพอากาศสหรัฐ เพื่ออธิบายรายงานเกี่ยวกับวัตถุบินลึกลับบนท้องฟ้า โดยต่อมาคำว่า“ยูเอฟโอ”ได้รับความนิยมมาจากหนังสือพิมพ์และนิตยสาร เนื่องจากเริ่มมีการพบเห็น “ยูเอฟโอ” มากขึ้นในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ.1950)  หลังจากการพัฒนาเทคโนโลยีหรือวิทยาการที่เกี่ยวข้องกับจรวดและขีปนาวุธ ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่มีนักวิจัยบางกลุ่มเชื่อว่า มีสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดเดินทางมาสำรวจโลก

สำหรับหลักฐานการพบเจอจำนวนมากมักมีรายงานแถบประเทศสหรัฐอเมริกา(United States) รองลงมาคือเม็กซิโก(Mexico)และแคนาดา(Canada) ซึ่งสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมากให้ความสนใจในเรื่องยูเอฟโอ(UFO) จึงทำให้สหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะมีรายงานการพบเห็น “ยูเอฟโอ(UFO)” มากที่สุด และรองลงมาคือประเทศเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งสองประเทศนี้ต่างเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันจึงทำให้มีการรายงานการพบเห็น “ยูเอฟโอ”ในประเทศเหล่านั้นอยู่ตลอด

โดยในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เครื่องบินรบ F-22 ได้ยิงวัตถุที่มี “ขนาดเท่ากับรถยนต์” ที่ลอยอยู่ 40,000 ฟุตเหนือน่านฟ้าของรัฐอะแลสกา ต่อมาในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ก็ได้ยิงวัตถุต้องสงสัย “รูปทรงกระบอก” จนตกลงพื้น ทางตอนเหนือของประเทศแคนาดา ซึ่งสหรัฐฯ และแคนาดาได้ร่วมมือกันในปฏิบัติครั้งนี้ ก่อนที่ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์  เครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ จะยิงทำลายวัตถุลึกลับบนท้องฟ้าอีกครั้ง ขณะบินอยู่เหนือทะเลสาบฮูรอน ในมิชิแกน ถือเป็นการยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยครั้งที่ 4 ในเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐฯ

ทฤษฎีสมมติฐานเรื่อง มนุษย์ต่างดาว(Alien)

โดยทฤษฎีต่างๆถูกตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า ถ้าระบบสุริยะจักรวาลของเรามีดาวเคราะห์มากมาย การพบสิ่งมีชีวิตต่างๆบนดาวเคราะห์และกาแล็กซีอื่นๆก็น่าจะไม่ใช่เรื่องยากในการพบเจอ“มนุษย์ต่างดาว(Alien)” เพราะว่าดาวเคราะห์และระบบสุริยะของเรามีขนาดเล็กอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับความกว้างใหญ่ของเอกภพ(Universe) ดังนั้น ข้อเท็จจริงที่อาจเป็นไปได้ว่า “มนุษย์ต่างดาว(Alien)” จากนอกระบบสุริยะอาจมีอยู่จริงก็เป็นได้

ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่พยายามคิดวิธีต่างๆที่จะสามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว(Alien) โดยแนวคิดบางอย่างต้องสื่อสารผ่านคลื่นวิทยุ หรือ รูปทรง ซึ่งนับว่าเป็นเวลาหลายทศวรรษที่ได้ส่งคลื่นวิทยุไปยังอวกาศ หรืออาจใช้เวลาหลายปีที่ข้อความจะไปถึงดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง จากนั้นอาจใช้เวลาอีกหลายสิบปีที่ดาวเคราะห์ดวงนั้นจะส่งข้อความกลับมาหาเรา 

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีปรากฏการณ์ครอปเซอร์เคิล(Crop Circle)  ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1678 ที่ฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ (Hertfordshire) ประเทศอังกฤษ โดยไม่สามารถอธิบายได้ว่าใครหรืออะไรทำให้มันเกิดขึ้น โดยพืชได้ล้มลงเป็นจำนวนมากในเวลาคืนเดียว และเกิดเป็นลวดลายที่ซับซ้อนสวยงามขึ้นในหลากหลายประเทศ

เรื่องราวยูเอฟโอ (UFO) หรือมนุษย์ต่างดาว นับว่าเป็นเรื่องที่ชวนค้นหา และยิ่งวิทยาการที่ดีมากขึ้นทำให้เราเริ่มได้เห็นสิ่งที่เชื่อมโยงถึงการมีตัวตนได้มากกว่าเดิม ก็ไม่แปลกที่ประเด็นนี้จะไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันหรือเป็นแค่นิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป ใครจะไปรู้ละคะว่าอาจจะมีสิ่งมีชีวิตมากมายมายที่อยู่นอกโลก กำลังมองดูพวกเราอยู่ก็เป็นได้นะคะ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและทำให้พวกเราเข้าใจกี่ยวกับเรื่องยูเอฟโอ(UFO)มากขึ้นอีกด้วยค่ะ

อ้างอิง funkidslive , wsj , dw

คลิปแนะนำอีจัน
วานเลนไทน์ปีนี้ ครูไม่โสดแล้วนะ