สะเทือนวงการบันเทิง ซีอีโอวอลต์ดิสนีย์สั่งปลดพนักงานทั่วโลก

ซีอีโอวอลต์ดิสนีย์สั่งลดพนักงานทั่วโลกกว่า 7,000 คน ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด เพื่อปรับโครงสร้างของบริษัทครั้งใหม่

ถือว่าเป็นข่าวสะเทือนวงการการ์ตูนครั้งยิ่งใหญ่ โดยรายงานข่าวจากเว็บไซต์ npr ระบุว่าเมื่อวันพุธที่ 8 ก.พ 66 “บ็อบ ไอเกอร์” (Bob Iger) ซีอีโอ ของบริษัท วอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) ได้ประกาศปลดพนักงานบริษัทกว่า 7,000 คน หรือ ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่าย และปรับโครงสร้างของบริษัทให้ดำเนินต่อไปในทิศทางที่ดีขึ้น

โดยการปลดพนักงานออกในครั้งนี้ ทำให้หุ้นของบริษัท(Walt Disney) เพิ่มขึ้นทันทีหลังจากการประกาศซึ่งเป็นไปตามคาด และบ็อบได้ตั้งเป้าหมายของเขาเอาไว้ นั่นก็คือการลดต้นทุนมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ โดยการรวมหน่วยงานทั้งการสร้างและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และรายการทีวีเอาไว้

ซึ่งดิสนีย์(Walt Disney) ทำผลงานได้ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา ด้วยกำไรและรายได้ที่เพิ่มขึ้น นับจากตัวเลขผู้เข้าใช้สวนสนุกและสมาชิกจำนวนมากขึ้นในบริการสตรีมมิ่งของดิสนีย์ เช่น อีเอสพีเอ็นพลัส(ESPN+) ซึ่งเป็นเครือข่ายโทรทัศน์และบริการสตรีมมิ่งรายการ และ ฮูลู(Hulu) สตรีมภาพยนตร์และรายการทีวีที่มีคุณภาพสูงเต็มรูปแบบ ถึงแม้ว่า ดิสนีย์พลัส (Disney+) แพลตฟอร์ม จะสูญเสียสมาชิก 2.4 ล้านราย ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ ตามรายงานผลประกอบการล่าสุดของบริษัท ยังไม่มีผลกำไรจากรายการทีวีและไม่มีบริการสตรีมมิ่งใดที่ทำเงินได้เลย


การปรับโครงสร้างของบริษัท(Walt Disney)ในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับ “บ็อบ ไอเกอร์” (Bob Iger) ซีอีโอของบริษัท วอลท์ ดิสนีย์(Walt Disney) ซึ่งเขาเป็นซีอีโอ(CEO)คนแรกในปี 2548 และเกษียณในปี 2563 และกลับมาอีกครั้งในปี2565

ทั้งนี้ บ็อบ ยังกล่าวอีกว่า บริษัทจะจัดโครงสร้างองค์กรใหม่เป็น 3 ส่วน ได้แก่ ความบันเทิงที่ครอบคลุมทั้ง ภาพยนตร์ ทีวี และสตรีมมิ่ง รวมถึง อีเอสพีเอ็น(ESPN) ที่เน้นกีฬา สวนสนุก ประสบการณ์ และผลิตภัณฑ์ของดิสนีย์อีกด้วย

โดยเขาย้ำว่า บริการสตรีมมิ่งของบริษัท(Walt Disney) ซึ่งรวมถึง Disney+, ESPN+ และ Hulu ยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับ 1 แต่เขาเสริมว่าเขาจะไม่ละทิ้งแพลตฟอร์มแบบดั้งเดิมที่ยังคงเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น

ข่าวยังรายงานอีกว่า สมาชิกสตรีมมิ่งของ Disney ลดลงเพียง 1 เปอร์เซ็นต์จาก 164 ล้านคน เหลือ 162 ล้านคน แต่จำนวนสมาชิก ESPN+ และ Hulu เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ และสวนสนุกของดิสนีย์ยังคงทำกำไรได้ถึง  2.1 พันล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว

นับว่าเป็นข่าวในกระแสวงการบันเทิงทั่วโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับการปลดพนักงานออก โดยซีอีโอของบริษัท วอลท์ ดิสนีย์(Walt Disney)ในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของบริษัทใหม่และครั้งยิ่งใหญ่ที่จะทำให้เกิดผลกำไรที่เติบโตขึ้นในอนาคต

อ้างอิง npr , entrepreneur