‘ฟินแลนด์’ ครองแชมป์ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก 6 ปีซ้อน จากการจัดทำรายงานความสุขโลก (World Happiness Report) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งจัดทำขึ้นมาแล้ว 11 ปี
โดยสิ่งที่ประเทศที่มีความสุขติดอันดับต้นๆ ล้วนมีเหมือนกัน คือ การสนับสนุนปัจจัยสำคัญๆ ในการใช้ชีวิตเป็นอย่างดี เรื่องของรายได้ การช่วยเหลือทางสังคม เสรีภาพในการใช้ชีวิต ความมีน้ำใจ และสภาพปลอดคอร์รัปชั่น
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ของอังกฤษรายงานว่า อันเดอร์ส วิคลอฟ (Anders Wiklöf) วัย 76 ปี มหาเศรษฐีชาวฟินแลนด์ ถูกตำรวจจับและปรับเงินจำนวน 121,000 ยูโร หรือราว 4,521,854 ล้านบาท และถูกระงับใบขับขี่ หลังขับรถเร็วเกินกำหนดตามกฎหมายที่ 82 กม./ชม. บนเกาะเอแลนด์ ซึ่งเป็นหมู่เกาะปกครองตัวเอง ในทะเลบอลติก ส่วนหนึ่งของฟินแลนด์ ที่ให้ขับรถเร็วที่ 50 กม./ชม.
ซึ่งการที่เขาต้องจ่ายค่าปรับสูงขนาดนี้ เพราะฟินแลนด์มีบทลงโทษข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนด โดยคิดปรับตามรายได้ของผู้กระทำความผิด ดังนั้น ‘วิคลอฟ’ ซึ่งเป็นประธานบริษัทโฮลดิ้ง ที่ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ บริการเฮลิคอปเตอร์ อสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยว ทำรายได้มากถึง 350 ล้านยูโร หรือราว 13,000 ล้านบาท ในปี 2022 ที่ผ่านมา จึงโดนปรับเป็นจำนวนเงินมหาศาล
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของ ‘วิคลอฟ’ เพราะย้อนไปเมื่อปี 2018 เขาเคยถูกปรับหลังถูกจับได้ว่า ขับรถเร็วเกินกำหนดตามกฎหมายเป็นเงิน จำนวน 63,680 ยูโร หรือราว 2,379,766 บาท หลังจากเมื่อปี 2013 ถูกปรับ 95,000 ยูโร หรือราว 3,550,216 บาท ในความผิดเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากฟินแลนด์แล้ว สวิตเซอร์แลนด์ ยังเป็นประเทศที่คิดค่าปรับ จากรายได้ของผู้กระทำความผิดเช่นกัน โดยเมื่อปี 2010 มีผู้กระทำความผิดเป็นชาวสวีเดน ถูกจับได้ว่าขับรถด้วยความเร็ว 290 กม./ชม. ระหว่างเมืองเบิร์นและเมืองโลซานน์ ถูกปรับมากถึง 1,100,000 ยูโร หรือราว 41,107,770 บาท ซึ่งเชื่อว่า เป็นค่าปรับที่มากที่สุดในโลก
อีจันชวนโหวต