หวิดดับยกลำ นักบิน ดับเครื่องยนต์กลางอากาศ หวังให้เครื่องตก

นักบินที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ของสายการบินอลาสก้า แอร์ไลน์ พยายามดับเครื่องยนต์กลางอากาศ เจตนาให้เครื่องบินตก หวังสังหารหมู่ แต่กัปตันและนักบินผู้ช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน

วันที่ 24 ต.ค. 66 สื่อต่างประเทศรายงานเรื่องราวสุดระทึก ที่เกือบจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งเลวร้าย หลังสายการบินอลาสก้า แอร์ไลน์ ที่ออกเดินทางจากเมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ไปยัง เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ 

ขณะที่เที่ยวบิน 2059 ของอลาสก้า แอร์ไลน์ ที่ปฏิบัติการบินโดยสายการบินฮอไรซัน แอร์ ออกเดินทางได้เพียง 1 ชั่วโมงเศษ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อนายโจเซฟ เดวิด เอเมอร์สัน วัย 44 ปี นักบินที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ของเที่ยวบินนี้นั่งอยู่ในห้องควบคุมเช่นเดียวกับกัปตันและนักบินผู้ช่วยได้มีความพยายามที่จะเปิดระบบดับเพลิงอัตโนมัติ แต่กัปตันและนักบินผู้ช่วยได้ทำการขัดขวางขั้นตอนดังกล่าวไว้ได้ ก่อนจะให้ลูกเรือช่วยกันนำตัวออกจากห้องนักบินไปไว้ที่ด้านหลังของเครื่อง 

“ผมขอให้พวกคุณเตรียมตัวไว้ มีคนบนเครื่องพยายามที่จะดับเครื่องยนต์จากห้องนักบิน ตอนนี้เขาถูกนำตัวออกจากห้องนักบิน นำไปไว้ที่ด้านหลังเครื่อง และตอนนี้ไม่คิดว่าเขาจะก่อปัญหาใดๆแล้ว เราต้องการเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทันทีที่เราลงแตะพื้นและเข้าจอด” เสียงสนทนาของนักบินฮอไรซันน แอร์ ที่ให้ข้อมูลกับศูนย์ควบคุมการบินขององค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) 

และทันทีที่เครื่องบินลงจอดเรียบร้อยแล้ว ตำรวจพอร์ทออฟพอร์ทแลนด์ ได้ขึ้นไปบนเครื่องบินทันทีและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปคุมขังเพื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนโดยปราศจากเหตุการณ์ร้ายแรง

ส่วนทางด้านเอฟบีไอ หรือหน่วยงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ เผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่า ประชาชนทุกคนสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้ตามปกติ และจะไม่มีภัยคุกคามใดๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้อีก เช่นเดียวกับองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ ที่ออกประกาศให้ทุกสายการบินรับทราบว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรับอิทธิพลมาจากสถานการณ์โลก แต่เพื่อแนวทางการปฏิบัติที่ดี เราควรตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา 

ทั้งนี้ นายโจเซฟ เดวิด เอเมอร์สัน ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่ารวมแล้วกว่า 83 กระทง อาทิ ก่ออันตรายโดยประมาท และทำอันตรายต่อเครื่องบิน และเบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติ นายโจเซฟ เป็นนักบินที่มีใบอนุญาตและผ่านการรับรองจากทั้งสายการบินและแพทย์ รวมถึงไม่มีปัญหาสุขภาพจิตใดๆ ส่วนเหตุที่ตัวเขาเข้าไปอยู่ในห้องนักบินได้อย่างไรนั้น ตามปกติแล้วนักบินสายการบินเดียวกันหรือในเครือที่ไม่ได้มีหน้าที่ในเที่ยวบินนั้นสามารถโดยสารเที่ยวบินดังกล่าวเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางเดียวกันทั้งเพื่อปฏิบัติภารกิจของสายบิน หรือปฏิบัติงานในเที่ยวบินอื่นๆต่อไป 

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.wionews.com, www.bbc.com