องค์การ NASA ยังไม่ชัด เอเลี่ยน มีจริงมั้ย แต่ไม่ตัดความเป็นไปได้

องค์การ NASA แถลงด่วน ไม่ชัด เอเลียน หรือมนุษย์ต่างดาวมีจริงมั้ย แต่ไม่ตัดความเป็นไปได้ หลัง รัฐสภาแม็กซิโก จัดแสดงฟอสซิลเอเลียน อายุ 1,000 ปี

ฮือฮาอีก หลังจากวานนี้ (14 ก.ย.66) องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ องค์การ NASA (National Aeronautics and Space Administration) ของสหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการพบเห็นวัตถุ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หรือที่เราเรียกว่า UFO และปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่อาจระบุได้ หรือ UAP ด้วยความยาว 36 หน้า

ซึ่งแม้จะไม่มีการฟันธงว่า เอเลี่ยน หรือมนุษย์ต่างดาวมีจริง แต่ก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ โดย NASA ประกาศแต่งตั้ง นายบิล เนลสัน ขึ้นเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ ด้านการวิจัยเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่อาจระบุได้ หรือ UAP นี้เอง โดยเขาระบุว่า นาซ่าไม่เพียงแต่จะเป็นผู้นำการวิจัยเกี่ยวกับ UAP เท่านั้น แต่จะแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ด้วย

โดยตามรายงานของ NASA ระบุว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องการพบเห็น UFO หรือวัตถุบินที่ไม่สามารถระบุชัดได้ในหลายร้อยกรณี ไม่พบหลักฐานว่า เอเลี่ยนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ที่ไม่อาจจะอธิบายได้เหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ว่า มันอาจจะเป็นเรื่องจริง

นอกจากนี้ NASA ยังอ้างข้อสังเกตว่า ปัจจุบันการพบเห็น UFO ส่วนใหญ่จะถูกบันทึกด้วยเซ็นเซอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีจุดประสงค์ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ภายใต้ สถานการณ์โดยบังเอิญ หรือถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ หลักฐานจากคดี UFO เกือบทั้ง หมด ไม่ได้ถูกรวบรวมอย่างจริงจังทางวิทยาศาสตร์ มากพอที่จะสรุปผลได้อย่างน่าเชื่อถือ

ดังนั้น เมื่อประกอบกับการเก็บข้อมูลต่างๆ ที่อาจจะไม่สมบูรณ์ หมายความว่าต้นกำเนิดของ UFO ที่พบเห็นจำนวนมากนี้ ก็ยังจะไม่มีอะไรแน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้รายงานจะไม่ได้มีข้อสรุปเกี่ยวกับการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่ NASA ก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ ว่ามันมีเทคโนโลยีเอเลี่ยนที่โลกไม่รู้จัก กำลังปฏิบัติการอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก

ขณะที่ น.ส.นิโคลา ฟ็อกซ์ ผู้ช่วยผู้บริหารของกองอำนวยการภารกิจอวกาศ ของ NASA บอกว่า UAP เป็นหนึ่งในเรื่องลึกลับที่สุดของโลกเรา เหตุผลหลักก็คือขาดข้อมูลคุณภาพสูง แม้จะมีรายงานการพบเห็นมากมาย แต่ข้อมูลมักจะไม่มากพอที่จะใช้หาข้อสรุปแน่นอนทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับธรรมชาติ และต้นกำเนิดของ UAP ได้

อย่างไรก็ตาม การแถลงดังกล่าวของ NASA เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุขึ้นที่ประเทศเม็กซิโกเพียง 1 วัน โดยที่แม็กซิโก ซิตี้ (Mexico City) มีการเปิดไต่สวนสาธารณะของรัฐสภาเกี่ยวกับ UAP ซึ่งมีการนำร่างฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ หรือเอเลียน ซึ่งคาดว่า มีอายุนับ 1,000 ปี มาแสดงระหว่างการไต่สวนด้วย ซึ่งทำให้สมาชิกสภาเม็กซิโกตกตะลึง

โดยผู้ที่นำซากมาโชว์ คือ นายเจมี มอสซัน ซึ่งอ้างว่า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน UFO และบอกว่า ซากที่เห็นดังกล่าว คือฟอสซิลเอเลียนที่ยังหลงเหลืออยู่ เป็นสิ่งมีชีวิตนอกโลกอายุประมาณ 1,000 ปี ทั้งนี้ มอสซัน ยังได้ยกมือสาบานตนด้วยว่า สิ่งที่ได้พูดทั้งหมดคือความสัตย์จริง ขอพูดเฉพาะความจริงต่อที่ประชุมรัฐสภา

และยังบอกอีกว่า ตัวอย่างฟอสซิลเอเลียนเหล่านี้ ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการทางภาคพื้นดินของโลก พบในประเทศเปรู และมีการตรวจสอบฟอสซิลเอเลียน โดยดูจากอายุคาร์บอนกัมมันตรังสี

พร้อมกับยืนยันว่า เราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ในจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล เราต้องยอมรับความจริงข้อนี้ว่า มีคนอื่นอยู่ด้วย คงจะโอหังยโสมาก ถ้าคิดว่าเราอยู่เพียงลำพังในจักรวาล แล้วเขาก็ชี้ว่า มันเป็นไปได้อยู่แล้วที่มีสิ่งชีวิตอื่นๆ อยู่บนโลกมาก่อนมนุษย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ตะลึง เผยซาก มัมมี่เอเลี่ยน อายุนับพันปี พร้อมผล DNA ยันไม่ใช่มนุษย์
คลิปอีจันแนะนำ
กังหันแมวสลิด ตกได้หมดไม่สนพระสนเจ้า