คืบหน้าคดี ลูกทรพีฆ่าแม่ ทิ้งกลางทุ่งนา ชัยภูมิ ตำรวจ เผย พบเบาะแส ล่าสุดแล้ว

5 วันยังล่าไม่เลิก ! ตำรวจ พบเบาะแสล่าสุด ลูกทรพีฆ่าแม่ ทิ้งกลางทุ่งนา ชัยภูมิ แล้ว เผยแรงจูงใจอาจเกิดจากบันดาลโทสะ ?

จากเหตุสลดสังคมที่เกิดขึ้นที่ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.64 ที่ผ่านมา

นางอรพิน วัย 52 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.หนองคู อ.บ้านแท่น ถูกพบเป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา จากการสอบปากคำญาติ ทำให้น่าเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายทรงกด วัย 31 ปี ลูกชายแท้ๆ ของนางอรพิน ที่เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำในคดีฆ่าคนตายโดยเจตนามา

โดยนายบุญเต็ม อายุ 62 ปี สามีของผู้เสียชีวิต หรือพ่อของนายทรงกด ก็ให้การว่า วันที่เกิดเหตุ ลูกชายบ่นว่าปวดหน้าอก หายใจไม่ออกจึงให้แม่เขาขับรถจักรยานยนต์พาไปตรวจที่ รพ.บ้านแท่น ก่อนที่จะกำชับลูกชายให้ดูแลแม่ให้ดีเพราะต้องเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ให้ลูกซ้อนท้ายไป จนช่วงบ่าย ก็มีคนมาบอกว่าภรรยาของตนได้นอนเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนาแล้ว

แต่ลูกชายกับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮา มีโอ 125 สีเทา-ฟ้า ทะเบียน 8 ญ 705 กรุงเทพมหานคร รวมทั้งเงินสดและ โทรศัพท์มือถือของภรรยาก็หายไปด้วย

ล่าสุด วันนี้ (3 ก.พ.64) อีจันได้โทรสอบถามไปยัง พ.ต.อ.วรวุฒิ เล็กสุนทร ผกก.สภ.บ้านแท่น โดยท่านผู้กำกับก็ให้เกียรติตอบคำถามอีจันถึงความคืบหน้าของคดีนี้ พร้อมเผยว่า

หลังจากที่นายทรงกด ก่อเหตุฆาตกรรมแม่บังเกิดเกล้าของตัวเอง ก็หลบหนีหายไป เบื้องต้น ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.64 ในข้อหา ฆ่าบุพการีโดยเจตนา ซึ่งผลการชันสูตรศพนางอรพิน แพทย์ระบุว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ถูกบีบรัดที่ลำคอจนกล่องเสียงแตก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังส่งทีมสืบสวน หาตัวนายทรงกด อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาอยู่

เบื้องต้น มีคนแจ้งเบาะแสเข้ามาหลายจุด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตามสืบทุกที่ที่ได้รับแจ้งมา แต่จุดที่ตำรวจมั่นใจ คือ เมื่อ 2 วันที่แล้ว มีผู้พบเห็นนายทรงกด ไปปรากฏตัวอยู่แถวบ้านเช่าแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 120 กิโลเมตร ซึ่งดูจากรูปพรรณสัณฐาน และเสื้อผ้าการแต่งกาย รวมทั้งมีพยานยืนยัน ก็น่าเชื่อได้ว่าเป็นนายทรงกดจริง

ส่วนข้อมูลล่าสุด หลังจากที่ชุดสืบลงพื้นที่ไป นายทรงกด ก็หายตัวไปอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า นายทรงกด ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใคร และคาดว่ายังคงอยู่ในพื้นที่ละแวกนั้น ตอนนี้ตำรวจได้ประสานกับทางชุดสืบสวนภาค 4 และกองปราบ มาช่วยกันหาตัวนายทรงกดอยู่

ซึ่งความคืบหน้าทางคดีต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการบอกกับญาติตลอด ซึ่งญาติก็ยังบอกกับตำรวจอีกว่า “อย่าทำอะไรมันนะ” ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความเป็นห่วง

พ.ต.อ.วรวุฒิ เผยอีกว่า นายทรงกด ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 1 มี.ค.63 โดยตั้งแต่พ้นโทษมาก็อยู่กับพ่อและแม่ตลอด จากการสอบถามชาวบ้าน นายทรงกด เป็นคนเงียบๆ สุภาพเวลาคุยกับเพื่อนบ้าน ไม่เคยมีพฤติกรรมเกเร ก้าวร้าว แต่จะมีปัญหากับพ่อ มักจะขึ้นเสียงข่มขู่ใส่พ่อเวลาเมาหรือเวลาทะเลากัน แต่ไม่เคยใช้ความรุนแรง หรือทำร้ายร่างกายเลย

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกนั้น ก็ไม่เคยมีปัญหาลงไม้ลงมือกับแม่ โดยช่วงที่ลูกชายติดคุก ผู้เป็นแม่ก็ไปเยี่ยมตลอด

แต่มีการขึ้นเสียงใส่บ้างบางครั้งตอนเมา

ส่วนความเห็นทางคดี พ.ต.อ.วรวุฒิ เผยว่า จากการสอบถามญาติ ตัวผู้ต้องหาไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไร ส่วนในวันที่เกิดเหตุที่บอกว่าแน่นหน้าอกให้แม่พาไปส่ง โรงพยาบาล ก็ไม่น่าจะเป็นการวางแผนฆาตกรรมแม่ตัวเองหรือประสงค์ต่อทรัพย์ แต่แรงจูงใจในการก่อเหตุฆาตกรรมบุพการีในครั้งนี้ อาจเกิดจากการบันดาลโทสะ โดยผู้เป็นแม่ เคยพูดคุยกับลูกชายไว้ว่า หากขายอ้อยได้เงินมา ลูกชายขอให้แม่ซื้อมือถือหรือรถมอเตอร์ไซค์เก่าๆ ให้ 1 คัน ตัวลูกชายน่าจะเห็นว่าแม่ขายอ้อยแล้วได้เงินมา แต่ยังไม่ซื้อของให้ ในวันที่เกิดเหตุ อาจมีการไปคุยกันจนเกิดมีปากเสียง ซึ่งในส่วนนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ส่วนรายละเอียดข้อเท็จจริง ตอนนี้ต้องรอตัวผู้ต้องหาเป็นผู้ตอบคำถามทุกข้อสงสัยเท่านั้น

ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ และจะเร่งรัด ตามหาตัวผู้ต้องหาให้ได้เร็วที่สุด