ช่างทาสี วัย 52 สุดซวย เดินข้ามสะพานลอยถูกชายคลั่ง ไล่ทำร้าย ใช้ขวดตี มีดฟัน เลือดท่วม ยืนยันไม่รู้จักกันมาก่อน
(21เม.ย.65) เวลา 10.44 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทกัน บนสะพานลอยหน้าไปรษณีย์ สาขาประชาอุทิศ และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมา จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ บริเวณด้านบนสะพานลอย หน้าไปรษณีย์ สาขาประชาอุทิศ ถนน ประชาอุทิศ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
พบชาย 2 คนกำลังต่อสู้กันอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครจึงช่วยกันระงับเหตุ และจับแยกกันออกมา แล้วพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ชื่อนาย สุรศักดิ์ ป้านสวาสดิ์ อายุ 51 ปี มีอาชีพเป็นผู้รับเหมาทาสี ได้รับบาดเจ็บหลายแห่งตามร่างกาย ที่แขนด้านขวาถูกอาวุธมีดไม่ทราบขนาดฟันจนเป็นแผลร่องลึกถึงกระดูก บาดแผลเปิดกว้างมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ส่วนที่หูถูกตีด้วยขวดอย่างแรงจนแตกเลือดอาบ ใต้ตาด้านขวามีแผลแตก แล้วที่หัวบวมจากการถูกทุบตีด้วยขวด
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจึงรีบปฐมพยาบาล ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนก่อนนำตัวส่งที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ตามสิทธิ์การรักษาของผู้ได้รับบาดเจ็บ
ผู้ก่อเหตุเป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 30 ปี ถูกตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวน ถึงสาเหตุการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ต่อไปและได้บันทึกภาพภายในที่เกิดเหตุทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อ นาย สุรศักดิ์ ป้านสวาสดิ์ อายุ 51 ปี กล่าวว่า ไปทำธุระมาแล้ว กำลังจะกลับบ้านเลยมาเดินข้ามสะพานลอย ก็พบกับชายคนก่อเหตุโดยบังเอิญ ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยู่ๆก็โดนชายผู้ก่อเหตุเข้ามาทำร้ายโดยใช้ขวด และมีดเข้ามาตีมาฟันจนได้รับบาดเจ็บ ตนก็พยายามที่จะปกป้องตัวเองแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุมีอาวุธตนก็เลยได้รับบาดเจ็บอย่างที่เห็นจนกระทั่งมีพลเมืองดีโทรแจ้งตำรวจ
คุณ มาลี เป็นแม่ค้าขายกล้วยแขก อยู่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าไปรษณีย์ และเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนร้ายรายนี้นั่งอยู่บนสะพานลอยนานแล้ว พอคนที่เดินขึ้นไปก็ทำท่าจะชกต่อยแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร จนกระทั่งชายผู้ได้รับบาดเจ็บคนดังกล่าวขึ้นไป ก็เห็นว่าชกต่อยกันแล้วก็โดนฟันหลายแผล ตนเลยรีบโทรแจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ พอคนเจ็บเดินลงมาก็บอกกับตนว่าเขาเอามีดมาฟันผม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวชายผู้ก่อเหตุคนดังกล่าว ไปสอบสวนอย่างละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอาสาสมัครได้นำตัวส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ตามสิทธิ์การรักษาของผู้บาดเจ็บแล้ว ถ้าอาการดีขึ้นจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุ