ตำรวจขอนแก่น ออกหมายจับเพิ่มอีก 5 คน คดีฆาตกรรมสาวเจ้าของร้านชำ

คดีฆาตกรรมสาวเจ้าของร้านชำ ใกล้ได้ตัวคนร้าย ตำรวจขอนแก่นออกหมายจับทีมฆ่าเพิ่ม 5 คน รวมทั้งหมด 6 คน เร่งล่าตัวมือฆ่า!

ออกหมายจับเพิ่ม 6 คน ร่วมฆาตกรรมสาวเจ้าของร้านชำ!

หลังจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้สอบสวน นายเอ (นามสมมุติ) อายุกว่า 50 ปี และให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง ขอศาลออกหมายจับนายเอ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ในคดีฆาตกรรมนางกันนิกา เจ้าของร้านชำ จ.ขอนแก่น

ความคืบหน้าของคดีล่าสุด กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกันประชุมสรุปผลการทำงานการสืบสวนหาตัวคนร้ายฆ่านางกันนิกา โดย พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสงค์ ผกก.สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เผยว่า การสืบสวนคืบหน้าไปมาก และการสอบสวนกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับการตายของนางกันนิกา ก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทั้งยังพบรถยนต์กระบะคันที่นางกันนิกาขับออกจากบ้านแล้ว อยู่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งตำรวจชุดสืบสวนกำลังตามประกบตัวคนที่ครอบครองไว้ เพื่อจะยึดรถและนำกลับมาที่จังหวัดขอนแก่น การสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย ทำให้ทราบว่าคนที่ลงมือทำร้ายนางกันนิกาจนตาย คือนาย ประสิทธิ์หรือสมชาย แล้วชิงเอาทรัพย์สินไป แต่ไม่มีใครรู้จุดที่ลงมือทำร้ายว่าเกิดที่จุดใด กระทั่งพบศพผู้ตายในป่าดังกล่าว แต่จากการสืบสวนล่าสุดพบความเคลื่อนไหวจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่ถูกคนร้ายชิงไป สัญญาณมีความเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ขณะนี้จึงขาดเพียงหลักฐานที่ยืนยันพฤติการณ์ของคนร้ายที่ลงมือฆ่านางกันนิกาเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับคนที่ร่วมในขบวนการ การหายตัวไปของผู้ตาย แลการชิงทรัพย์รถกระบะ รวมทั้งหมด 6 คน ซึ่ง 1 ใน 6 คือนายประสิทธิ์ ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์หรือรับของโจร เมื่อได้หมายจับและจับกุมได้ตัวมาสอบสวนแล้ว พบความผิดหรือมีหลักฐานเพิ่มก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มได้อีก

ทางด้าน พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า การสืบสวนของเจ้าหน้าที่มีหลักฐานยืนว่า ก่อนที่นางกันนิกาจะออกจากบ้านไปซื้อของนั้น มีสายโทรศัพท์จากคนร้ายโทรมาหา แล้วชักชวนไปพบกันที่จุดใกล้บริเวณบ้านของคนร้ายในพื้นที่บ้านหนองไฮ ม.8 ซึ่งเมื่อพบกันแล้วผู้ตายและคนร้ายไปไหนด้วยกัน และถูกทำร้ายจนตายในจุดใดนั้นยังไม่มีพยาน หลักฐานยืนยัน จึงยังไม่สามารถแจ้งข้อหาหรือจับกุมตัวในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หรืออำพรางศพได้ จึงทำได้เพียงขอศาลออกหมายจับในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการชิงทรัพย์รถยนต์ที่มีพยานยืนยันว่าคนร้ายให้ติดต่อกับกลุ่มโจรกรรมรถยนต์แล้วนำส่งรถให้ แต่หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็จะจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป