เสียงแว่วๆ ทุเรียนบนภูเขาลับแล เริ่มทยอยออกผลิตแล้วจ้า เมื่อเข้าสู่ฤดูทุเรียน เชื่อว่าหลายคนก็เฝ้ารอกินทุเรียนสายพันธุ์ในดวงใจ ราชาแห่งผลไม้ของไทย ที่ทั่วโลกก็ต่างให้ความสนใจ โดยเฉพาะทุเรียนสายพันธุ์ หลง-หลินลับแล ผลผลิตประจำถิ่นจาก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ที่จะออกผลผลิตในช่วงเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคมของทุกปี ทุเรียนลูกจิ๋ว ที่เนื้ออย่างแจ๋ว ด้วยคุณลักษณะพิเศษลูกเล็กเมล็ดลีบกว่าทุเรียนทั่วไป ทำให้มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่แพ้ทุเรียนสายพันธุ์อื่น สาวกทุเรียนตั้งหน้าตั้งตารอผลผลิตอย่างใจจดใจจ่อ
การเฝ้ารอ ไม่ทำให้สาวกทุเรียนผิดหวังค่ะ เพราะปีนี้ทุเรียนหลงลับแล หลินลับแล เริ่มออกผลผลิตให้เราให้ลิ้มรสเต็มเขาแล้วค่ะ บางสวนก็เริ่มทยอยตัดกันบ้างแล้ว ทุเรียนส่งกลิ่นหอมไปทั่วเขา ชวนให้เราอยากขับรถขึ้นไปเที่ยวลับแลเชียวแหละ แต่จากคำบอกเล่าของบอกสวนว่าปีนี้ ทุเรียนหลง-หลิน ค่อนข้างน้อย เนื่องจากสภาพอากาศที่ทั้งร้อน และแล้ง ทำให้ทุเรียนบางส่วนเสียหายไปบ้าง และออกผลผลิตไม่มากเหมือนทุกปี แต่เรื่องความอร่อย และรสชาติยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ
มาทำความรู้จักทุเรียนหลิน-หลงลับแลกันค่ะ
ทุเรียนสายพันธุ์นี้ปลูกบนภูเขาสูง อาศัยธรรมชาติในการดูแลรักษา จึงเป็นที่มาของคำว่า “ทุเรียนเทวดาเลี้ยง” ด้วยลักษณะพิเศษ และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ทุเรียนหลง-หลินลับแล ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2555
สัญลักษณ์ GI หรือ Geographical Indication ที่หมายถึง “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” ซึ่ง กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ออกให้ ซึ่งทุเรียน GI ต้องมีแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง มีคุณภาพ มีชื่อเสียง แตกต่างจากทุเรียนทั่วไป เปรียบเสมือนเอกลักษณ์ของท้องถิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า
ทุเรียนหลง-หลิน กินที่ไหนรสชาติก็ไม่เหมือนเมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ ด้วยลักษณะภูมิศาสตร์เฉพาะ ทั้งดิน แร่ธาตุ ธรรมชาติ อากาศ และแหล่งน้ำ ปัจจัยเฉพาะเหล่านี้ส่งผลให้ทุเรียนหลง-หลินลับแล มีรสชาติเฉพาะคือหวานมันเข้มข้น เนื้อเนียน ละเอียด แห้ง ไม่อมน้ำ ไม่มีเส้นใยกวนใจฟัน เมล็ดเล็กกว่าทุเรียนทั่วไป ซึ่งหากนำพันธุ์ไปเพาะปลูกที่อื่น รสชาติทุเรียนจะผิดแผกไปจากเดิม หรืออาจไม่ติดผลผลิตก็เป็นได้ค่ะ ทุเรียนทั้ง 2 สายพันธุ์นี้แตกต่างกันอย่างไร พันธุ์ไหน? อร่อยกว่ากัน อีจันมีคำตอบค่ะ
- ทุเรียนหลงลับแลอุตรดิตถ์
ทุเรียนหลงลับแลอุตรดิตถ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2555 ปลูกในเขตพื้นที่ อ.ลับแล อ.เมืองอุตรดิตถ์ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์
เกิดจากการทดลองนำเมล็ดทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของอุตรดิตถ์ไปปลูกที่เชิงดอย ปรากฏว่ากลายพันธุ์มาเป็นทุเรียนลูกเล็ก เมล็ดเล็กกว่าทุเรียนทั่วไป แต่รสชาติหวานอร่อย จนได้รับรางวัลที่ 1 ในการประกวดทุเรียนที่จัดโดยเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อปี 2520 จึงตั้งชื่อว่า “หลงลับแล”
ผลทรงกลม หรือ กลมรี ลูกเล็ก น้ำหนักอยู่ในช่วง 1-2 กิโลกรัม เปลือกบาง ร่องพูไม่ชัดเจน
เนื้อมีสีเหลืองอ่อน พูอวบ เมล็ดเล็ก เนื้อเนียนละเอียด ครีมมี่ ไม่มีเส้นใย รสชาติหวานมัน กลิ่นอ่อน หอมคล้ายดอกไม้ป่า สำหรับค่าความหวานอยู่ในช่วง 28-31 องศาบริกซ์
- ทุเรียนหลินลับแลอุตรดิตถ์
ทุเรียนหลินลับแลอุตรดิตถ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2555 เช่นเดียวกับ ทุเรียนหลงลับแล ปลูกในเขตพื้นที่ อ.ลับแล อ.เมืองอุตรดิตถ์ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์
จุดกำเนิดของ ทุเรียนหลินลับแล ปลูกโดยนายหลิน ปันลาด เมื่อปี 2493 ซึ่งนำเมล็ดทุเรียนมาปลูกจนได้ต้นใหม่ ที่มีลักษณะผลแปลกกว่าทุเรียนอื่นๆ มีรสชาติดี จนปี 2520 ก็ได้นำทุเรียนส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัลรองชนะเลิศ
ทุเรียนหลินลับแล ผลจะรียาว คล้ายมะเฟือง ร่องพูชัดเจน ลูกเล็ก น้ำหนักผลจะอยู่ในช่วง 1-3 กิโลกรัม เปลือกบาง มีเนื้อมาก จุดเด่นของทุเรียนพันธุ์นี้คือเมล็ดเล็กจิ๋ว บางพูแทบไม่มีเมล็ด เนื้อละเอียด แห้ง เหนียวละมุม รสชาติหวานเข้มข้นเส้นใยน้อย ไม่แฉะ ไม่เละ เนื้อดีไม่อมน้ำ กลิ่นหอมอ่อนไม่แรง ค่าความหวานอยู่ประมาณในช่วง 30-35 องศาบริกซ์
หลง-หลินลับแล ทุเรียนเทวดาเลี้ยง ที่ชาวสวนช่วยดีแล ผลผลิตในแต่ละปีมากน้อยไม่เท่ากันนะคะ ขึ้นอยู่กับฟ้าฝน อากาศดี ฝนถึง ผลผลิตก็เยอะ
ตามฤดูกาล ร้อน-แล้ง ผลผลิตก็ออกไม่มาก สำหรับเส้นทางในการเก็บเกี่ยวทุเรียนหลง-หลินลับแลมันเสียวมากค่ะ ยิ่งกว่าคดเคี้ยว หลายโค้งมากๆค่ะทุกคน การจะขึ้นไปดูแล หรือเก็บทุเรียนบนเขาแต่ละที ต้องใช้รถมอเตอร์พ่วงข้าง หรือกระบะโฟวิลในการขึ้นไป ใช้เวลานาน ทางลำบากเก็บเกี่ยวก็ยากค่ะ
เข้าสู่ฤดูกาลแล้วนะคะ ปีนี้เกษตรชาวลับแลอยากชวนทุกคนมาลิ้มลองทุเรียนเนื้อดี 1 ปี มีครั้งเดียว ใครกินก็ติดใจ หลงใหลในรสชาติทุกราย สักครั้งต้องลองกิน บอกเลยฟินค่ะ
สั่งซื้อทุเรียนหลง-หลินลับแลได้ที่ : https://lin.ee/aOpuLRr