ตำรวจฆ่าเผาอำพรางเมีย สารภาพหมดเปลือก นาทีฆ่าเมีย แรงจูงใจเกิดจากความหึงหวง

เปิดพฤติกรรมสุดโหด ผัวตำรวจฆ่าเผาอำพรางเมีย ฆ่าเผาแล้ว กลับมาทำงานต่อ สารภาพทำไปเพราะหึงหวง

ความคืบหน้าคดีสุดสะเทือนใจ ผัวตำรวจผ่าเผาอำพรางเมียนั้น

อ่านข่าว https://bit.ly/3eApIJg

ล่าสุดวันนี้ 14 มี.ค.2564 ที่ห้องสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา นำโดย พล.ต.ท อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการ ภาค1 ควบคุมตัว ส ต.อ ปิยะ นาโควงค์ ตำแหน่งผบ.หมู่ .กก.สส.ภจว.พระนครศรีอยุธยา ห้องจากห้องคุมขัง สภ.พระนครศรีอยุธยา มาสอบปากคำเพิ่ม เติม หาแรงจูงใจในการก่อเหตุ ลงมือฆ่า นางสาว ธัญญ์นิศาหรือ ฝนวิชนันท์คุณนิธิ แฟนสาว หลังลงมือก่อเหตุ ลงมือฆ่า ภายในบ้านพักตำรวจ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2564

โดยนางสาวธัญญ์นิศา (ฝน) มีความเกี่ยวข้องเป็นคู่รักกับ ส.ต.อ ปิยะ นาโควงค์ คบหากันมา 3 ปี ทั้งคู่ได้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันภายในบ้านพักตำรวจ จากนั้นเวลา 03 :30 น. ของวันนั้น ขณะที่ ผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนที่นอน ในบ้านดังกล่าว ส.ต.อ. ปิยะ

ได้ใช้หมอนกดที่บริเวณศีรษะของผู้ตายขณะที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอนจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตจากนั้นเวลาประมาณ 03. 45 นาที ส.ต.อ.ปิยะ ได้นำถุงทะเลบรรจุศพของผู้ตายแล้วได้นำขึ้นรถจักรยานยนต์ บรรทุกร่างผู้ตาย ไว้ด้านหน้าในลักษณะคร่อมถังน้ำมัน ไปที่อาคารฝึกสุนัขดมกลิ่น ภายใน ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ 500 เมตร

จากนั้นได้นำศพไปเก็บไว้ในสถานที่ดังกล่าว และได้นำรถยนต์กระบะยี่ห้อ Isuzu สีแดง ของทางราชการมาบรรทุกศพผู้ตาย และเข้าไปหยิบยางรถยนต์จำนวน 2 วง จากบริเวณสนามยิงปืน ภ.จวพระนครศรีอยุธยาเพื่อนำไปใช้ เผาอำพรางศพผู้ตาย จากนั้นได้ใช้รถของราชการบรรทุกศพผู้ตายโดยใช้เส้นทางโรจนะมุ่งหน้าอำเภอวังน้อยเมื่อมาถึงบริเวณปั๊มน้ำมันปตท.สาขา PTTOR วังน้อย

แล้วได้จอดรถในช่องจอดรถที่ 2 ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นสาขา วังน้อย จากนั้นได้ลงไปซื้อขวดน้ำยี่ห้อหนึ่งจำนวน 5 ลิตร 1 ขวดและไฟแช็กจำนวน 1 อัน

จากนั้นได้เทน้ำเปล่าทิ้งและได้นำขวดเปล่าไปบรรจุน้ำมันดีเซลจากช่องจ่ายน้ำมันช่องที่ 3 จำนวน 100 บาทและขับรถยนต์มุ่งหน้าไปยังบริเวณซอยวิเชียรกลิ่นสุคนธ์ อบต.ลำไทรอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อทำการเผานั่งยางศพ

โดย ส.ต.อ ปิยะได้นำศพผู้ตายลงจากรถคันดังกล่าวมายังบริเวณทุ่งหญ้า ภายในซอยวิเชียรกลิ่นสุคนธ์ จากนั้นได้ทำการเผานั่งยางผู้ตาย พร้อมด้วยถุงทะเลที่ใช้บรรจุศพโดยบริเวณดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง กระทั่งสภาพศพไหม้หมดประมาณ 80% ส.ต.อ. ปิยะ ได้นำชิ้นส่วนกระดูกศพที่เหลือจากการเผานั่งยางนำบรรจุในถุงอาหารสุนัข ที่เตรียมไว้และได้ขับรถไปยังบริเวณกลางสะพานศรีอยุธยาเส้นทางมุ่งหน้าเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยา ห่างจากจุดที่เผา 30 กิโลเมตร จากนั้นได้ นำชิ้นส่วนศพขาส่วนร่าง กระดูกหัวเหน่าถึงหัวเข่าและถุงอาหารสุนัขทิ้งลงตรงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้ก่อเหตุได้ขับรถกลับมายังที่พักแล้วกลับมาทำงานตามปกติ

ด้านพล.ต.ท อำพล บัวรับพร ผบช.ภ. 1 เผยหลังจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพถึงเหตุจูงใจว่าเกิดจากความ หึงหวง ผู้ตายเป็นคนชอบแต่งตัวและมีปัญหาเรื่องการเงิน และยังอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เสียชีวิตแต่ เกิดจากการพลั้งมือและเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา มิได้มีเจตนาฆ่าแต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังการเสียชีวิตซึ่งในวันจันทร์ที่ 15 มี.ค.2564 จะได้นำตัว ส.ต.อ ปิยะ ผู้ต้องหา ฝากขังศาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ส่วนแนวทางการช่วยเหลือทางตำรวจจะช่วยเหลือด้านของการประกอบพิธีทางศาสนาทั้งหมดส่วนลูกชายวัย5ขวบซึ่งเป็นลูกติดผู้ตายก็จะช่วยเหลือทั้งด้านทุนการศึกษา

ขณะเดียวกันนางภาวณีย์ สุภศรี อายุ 64 ปี แม่ของผู้ตาย เผยว่าตนได้พบหน้ากับผู้ต้องหาแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก ผู้ต้องหาได้เข้ามากราบขอโทษซึ่งแม่ก็อโหสิกรรมให้เนื่องจากอยากให้วิญญาณของลูกสาวไปสู่สุคติส่วนศพยังคงต้องรอผลจากนิติเวชยืนยันอีกครั้ง และจะนำกลับมาบำเพ็ญกุศลตามศาสนาอีกครั้งที่วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

อีจันขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตอีกครั้งค่ะ