ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เร่งตรวจสอบ โครงกระดูก ศพชายนิรนาม ที่ หนองนาคำ

ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เร่งส่ง พยานหลักฐาน ที่พบในที่เกิดเหตุ รวมทั้ง โครงกระดูก ศพชายนิรนาม เพื่อหาสาเหตุการตาย และพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ที่พบในพื้นที่ หนองนาคำ

เกิดอะไรขึ้นที่หนองนาคำ จังหวัดอุดรธานี

เมื่อชาวบ้านพบ “กระดูกมนุษย์” เกลื่อนป่าในพื้นที่ส่วนบุคคล!

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นายประสิทธิ์ และนางน้อย ศีรพวง อายุ 75 ปี ชาวบ้านหนองนาคำ ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ให้มาตรวจสอบ กะโหลกมนุษย์ และชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ ที่สวนมะม่วงท้ายหมู่บ้านถ่อนน้อย ม.8 ต.หนองนาคำ พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิลี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสืบสวน ตำรวจป้องกันและปราบปราม ,ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวทันที

หลังตรวจสอบ พบว่า เป็นกระดูกและกะโหลกเพศชาย เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุมาประมาณ 1-2 สัปดาห์ และในเบื้องต้นคาดว่า ที่ศพเหลือแต่โครงกระดูกภายในเวลาแค่ 2 อาทิตย์ เป็นเพราะมีสุนัขมาแทะเนื้อ ก่อนจะนำกระดูกและพยานหลักฐานอื่นๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ ส่งตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ให้กับโรงพยาบาลตำรวจ

ต่อมาวันที่ 15 ม.ค. 65 ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก น.ส.นวินดา พรมยาลี อายุ 41 ปี และนางทิพสุดา ดูวิเศษ อายุ 44 ปี ทั้งสองคนนี้ คือผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ.ถ่อนน้อย ม.8 ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี ว่ามีชาวบ้านพบโครงกระดูกมนุษย์หลายชิ้นอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล ขนาด 30 ไร่ ที่ชาวบ้านเรียกว่าป่าหลุมหิน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าโคกไม่ได้ใช้ประโยชน์ และเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล โดยชาวบ้านที่พบเป็นคนแรก ก่อนมาแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทราบชื่อ นายคำพอง สมันวงศ์ อายุ 54 ปี

ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่รอบบริเวณ พร้อมน.ส.นวินดา และนายคำพอง โดยให้นายคำพอง ผู้พบโครงกระดูกคนแรกให้นำไปยังบริเวณที่พบ เมื่อไปถึง ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ตรวจสอบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์กระจายอยู่ 7 จุด แต่ละจุดห่างกันประมาณ 5-20 เมตร

โดยชาวบ้านที่อาศัยในละแวกนี้ เชื่อว่า ที่ศพเหลือแต่กระดูก เพราะสถนัขจิ้งจอกมารุมแทะเนื้อ เนื่องจากเคยเห็นฝูงสุนัขจิ้งจอกอยู่ 2 ฝูง ประมาณ 20-30 ตัว ออกหากินอยู่ในบริเวณนี้ และที่ผ่านมา ลูกสุนัข เป็ด ไก่ ของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ ก็เคยถูกสุนัขจิ้งจอกไล่กินประจำ และยังได้ยินเสียงเห่าหอนเป็นกลุ่มทุกค่ำคืน

ภายในบริเวณเดียวกัน ยังพบหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้

1. รถจักรยานยนต์ 1 คัน

2. เสื้อและกางเกงกระจายอยู่ 4 จุด

3. โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง 1 เครื่อง

4. โทรศัพท์มือถือใต้เบาะรถจักรยานยนต์ 2 เครื่อง

5. ยาเส้น 1 ห่อ

6. บัตรประชาชน 8 ใบ

7. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 ใบ

8. บัตร ATM ธ.ออมสิน 1 ใบ

9. สมุดเงินฝาก ธ.ออมสิน 1 เล่ม

10. หนังสือเดินทาง 1 เล่ม

11. อุปกรณ์การเสพยาบ้า 1 ชุด

12. ไฟเช็ก 1 อัน

13. ถุงยางอนามัย 2 กล่อง

14. ป้าย พ.ร.บ. ทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 ใบ (ซึ่งไม่ตรงกันกับทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ติดเอาไว้ )

15. หมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ 1 ใบ

16. ขวดน้ำดื่มบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก 2 ขวด

17. เครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด

18. เปลนอนแบบผ้า 1 ใบ

19. รองเท้าแตะสีดำ 1คู่

20. ถุงเท้า1 ข้าง

โดยที่ บัตรประชาชน, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, บัตร ATM ธ.ออมสิน, สมุดเงินฝาก ธ.ออมสิน และหนังสือเดินทาง ที่พบนั้น ระบุชื่อไม่ซ้ำกันเลย และคอนโซนหน้ารถจักรยานยนต์ พบคราบน้ำเหลืองจำนวนมาก และมีกระจุกเส้นผมของมนุษย์บนพื้น ใกล้กับรถจักยานยนต์

นายคำพอง เล่าว่า มีที่นาอยู่ใกล้กับบริเวณที่พบโครงกระดูกมนุษย์ ห่างกันราว 1 กิโลเมตร ทุกเช้าตนจะออกมาดักจับหนูนาที่ป่าหลุมหินแห่งนี้เป็นประจำ และสังเกตเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณดังกล่าวมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ก็คิดว่าเป็นรถของชาวบ้าน หรือเจ้าของที่ดินมาซุ่มดูคนที่มาลักลอบตัดไม้ไปทำฟืน และที่ป่าแห่งนี้ชาวบ้านก็ชอบมาดักจับหนูนา หรือมาหาของป่า จึงไม่ได้ใส่ใจอะไร

กระทั่งเช้าวันนี้ (15 ม.ค. 65) ก็ยังเห็นรถจอดอยู่ที่เดิม จึงไปตามยายออกมาดูเป็นเพื่อน พอเข้ามาใกล้จุดที่รถจอด ก็ได้กลิ่นเหม็นสาบคล้ายกลิ่นซากศพ เหม็นโชยมาแรงมาก พอเห็นกระจุกเส้นผม และกระดูกกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ตกใจมาก จึงรีบกลับไปแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทันที

ส่วนนางทิพสุดา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ตนก็ได้ตรวจสอบทั้งตำบลหนองนาคำ และตำบลใกล้เคียง ก็ไม่พบว่ามีคนสูญหาย จึงคาดว่าชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ที่พบ น่าจะเป็นคนต่างถิ่น พร้อมกันนี้ ได้นำบัตรประชาชน ซึ่งระบุเป็นคนในตำบลหนองนาคำ ไปตรวจสอบกับทางญาติแล้ว ปรากฏว่า ชื่อที่ระบุในบัตรประชาชนยังมีชีวิตอยู่

ด้าน พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิลี รองผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์ของผู้ใด เนื่องจากถูกสัตว์กัดแทะ กระจายไปทั่วบริเวณ

เบื้องต้นจะตรวจสอบการครอบครองรถจักรยานยนต์ว่าเป็นของบุคคลใด และตรวจสอบบุคคลตามบัตรประชาชนและเอกสารต่างๆ ที่พบอยู่ในรถ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์และสืบหาผู้เสียชีวิต ซึ่งจะส่งชิ้นส่วนกระดูกที่พบในวันนี้ (15 ม.ค. 65) ไปตรวจสอบมวลกระดูกและดีเอ็นเอ ว่าตรงกันกับหัวกะโหลกที่พบก่อนหน้านี้หรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวนหาสาเหตุการณ์เสียชีวิตในการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

คลิปแนะนำอีจัน
สาวร่ำไห้สารภาพ ปมขโมยขนมร้านสะดวกซื้อ