นายทุนจีนพา 43 คนไทย ถูกใช้เยี่ยงทาส ปล่อยทิ้งกลางตลาดกัมพูชา

นายทุนจีนปล่อยทิ้งอีก 43 คนไทยในกัมพูชา คาดกลัวโดนบุกค้นเหมือน 99 คนแรก

จากกรณี 99 คนไทย ถูกนายทุนชาวจีน หลอกไปทำงานและขังไว้ภายในตึกแห่งหนึ่ง กลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา หากใครทำงานไม่ได้ตามจุดประสงค์จะถูกทำร้ายทุบตี

ล่าสุด วันนี้(19 พ.ย.64) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ชป.ศพดส.ตร) โดยมี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผอ.ศพดส.ตร. ได้ประสานงานกับ พล.ต.อ.วัน วีระ รอง ผบ.ตร.กัมพูชา และสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าช่วยเหลือคนไทยภายในตึกใจกลางเมืองใกล้กับ รพ.แห่งหนึ่ง ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่ถูกหลอกให้ลักลอบเข้ามาทำงาน และ ถูกกักขังบังคับให้ทำงานเกือบ 20 ชม.ต่อวัน จำนวน 99 คน

ล่าสุดนายทุนได้พาตัวคนไทย อีก 43 ราย แบ่งเป็น รอบแรก 13 ราย และรอบที่ 2 อีก 30 ราย พาไปปล่อยทิ้งไว้กลางตลาดในกรุงพนมเปญ ซึ่งปกติต้องเสียค่าไถ่ตัว คนละ 60,000-100,000 บาท แต่เพราะนายทุนชาวจีนได้รับความเสียหายอย่างมาก จากการที่ตำรวจบุกช่วยคนไทย 99 ราย ทั้งถูกยึดอาวุธ กระบองไฟฟ้า และยึดเงินอีกหลายล้านบาท จึงกลัวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาและสถานทูตฯ จะบุกเข้าค้นและจับกุมเหมือนชุดแรก

ส่วนคนไทย 99 ราย ที่บุกช่วยเหลือเมื่อวานนี้ ตำรวจได้เข้าสอบปากคำ ตรวจสอบเอกสาร และให้เซ็นต์หนังสือยินยอมรับสภาพหนี้ สำหรับค่าใช้จ่ายในเรื่องที่พักในโรงแรม อาหาร ค่าเดินทาง และอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลไทยจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด และจะต้องนำคนไทยทั้ง 99 ราย เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของกัมพูชา เพราะเข้าประเทศมาอย่างผิดกฎหมาย ก่อนจะส่งตัวกลับประเทศไทย

แต่คนไทยอีก 43 คน ที่ถูกนายทุนทำไปทิ้งเพราะกลัวเจ้าหน้าที่บุกจับนั้น ถือว่า ไม่เข้าข่ายนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานงานเพื่อจัดหารถยนต์และรถบัส ให้จำนวน 2 คัน เพื่อพามาส่งที่เมืองปอยเปต จ.บันเตียเมียเจย และรอส่งกลับไทย ทางด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในวันจันทร์ที่ 22 พ.ย.นี้ หลังจากที่เดินทางมาถึงปอยเปต ได้รับการประสานให้เข้าพักในบ่อนคาสิโนคนไทยฝั่งปอยเปต เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น และได้ทราบว่า มีคนไทยบางคนที่ไม่มีเงินติดตัวเพื่อเสียค่าปรับต่างๆ ตามธรรมเนียม จึงได้สมัครใจทำงานในบ่อนคาสิโนของคนไทยฝั่งปอยเปต ซึ่งยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเรื่องที่พักชั่วคราว และหากประสงค์จะทำงาน ก็จะรับเข้าทำงานไปก่อน เพื่อหารายได้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ประมาณ 10 คน ทำให้มีผู้ที่จะเดินทางกลับไทยในช่วงวันจันทร์นี้ ประมาณ 30 คน

แม้จะมีคนไทยได้รับการช่วยเหลือมาแล้ว แต่ยังมีคนไทยที่ประสานขอความช่วยเหลือมาอีก 1-2 จุด ในกรุงพนมเปญ รวมถึงกลุ่มคนไทยที่ยังไม่ทราบเรื่องว่ามีการเข้ามาช่วยเหลือ ยังคงถูกกักขัง และบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายอยู่อีกจำนวนหนึ่ง และยังมีคนไทยที่ขอความช่วยเหลือในพื้นที่ จ.สีหนุวิวล์ และ จ.โพธิสัต ใกล้เคียงกับ จ.ตราด พบมีเหยื่อคนไทยถูกข่มขืน และถูกทำร้ายร่างกายหลายสิบคน แต่ได้มีการส่งเรื่องขอความช่วยเหลือมายังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ชป.ศพดส.ตร) แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบและดำเนินการ

โดยเจ้าหน้าที่ได้ฝากเตือนคนไทยว่า การเดินทางเข้าไปทำงานโดยผิดกฎหมาย อันตรายมาก ร้อยละ 99 เป็นนายทุนชาวจีนที่หลอกคนไทยไปทำงานผิดกฎหมาย ควรรอให้มีการเปิดด่านก่อนค่อยเดินทางไปทำงาน ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้น เพราะทางการกัมพูชาได้ประกาศเปิดประเทศ ให้คนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม สามารถเดินทางเข้าประเทศกัมพูชาได้โดยไม่ต้องกักตัว ติดแค่เพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ยังไม่ได้ประกาศเปิดประเทศทางบก คาดว่า จะมีการเปิดประเทศในช่วงต้นปี 2565

คลิปแนะนำอีจัน
เปิดใจ เปิดสวน กล้วยด่าง 10 ล้าน!