น้าสาว ร้อง มูลนิธิปวีณา กรณี พ่อเลี้ยง อนาจารหลานสาว

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 65 นางบี (นามสมมุติ) ได้เข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี โดยแจ้งว่า นางเอ (นามสมมุติ) พี่สาวของตน ได้ไปอยู่กินกับนายเอก (นามสมมุติ) สามีใหม่ประมาณ 1 ปี ที่เถียงนาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.กุดชุม จ.ยโสธร โดยพาลูกติดจากสามีเก่า 2 คน คือ ด.ญ.หนึ่ง อายุ 13 ปี และด.ช.สอง อายุ 6 ปี (เด็กทั้งสองนามสมมุติ) ไปอยู่ด้วย โดยนายเอกมีพฤติกรรมชอบดื่มสุราและเสพยาบ้า ทั้งคู่จะทะเลาะกันบ่อยครั้ง กระทั่งกลางดึกวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเอกหลอนเพราะฤทธิ์ยาเสพติด จนทำร้ายพี่สาวบาดเจ็บ พี่สาวจึงได้รีบพาลูกชายคนเล็กหนีออกมา และไปฝากที่บ้านตายาย ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ก่อนจะวกกลับมาที่เถียงนาอีกครั้ง เพื่อรับด.ญ.หนึ่ง ลูกสาวคนโต แต่เมื่อไปถึงก็เห็นนายเอกกำลังขึ้นคร่อมอยู่บนตัวของลูกสาว ก่อนจะรีบเข้าไปช่วยลูกและพาด.ญ.หนึ่งไปอยู่ที่บ้านตายาย

นางบี กล่าวอีกว่า ด.ญ.หนึ่ง หลานสาว เล่าให้ตายายและน้าฟังว่า หลังจากแม่พาน้องออกไป นายเอก พ่อเลี้ยงยังอาละวาดเกรี้ยวกราดและก็เข้ามาข่มขืน จากนั้นแม่ก็กลับมาเห็นเหตุการณ์แล้วช่วยลูกออกมาได้ จนเช้าวันที่ 11 ม.ค. ตนได้พาหลานสาวเข้าแจ้งความที่สภ.กุดชุม พนักงานสอบสวนได้ส่งเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เบื้องต้นพบร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ และได้นัดสอบสหวิชาชีพเด็ก ในวันที่ 13 ม.ค. เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ในการดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยง ตนเองเป็นห่วงหลานๆ เพราะตายายก็ป่วยติดเตียง เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย หากพ่อเลี้ยงยังลอยนวล จึงตัดสินใจแจ้งเรื่องมายังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดี

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ โพธิ์กราน ผกก.สภ.กุดชุม ทันที โดยทางพ.ต.อ.จักรกฤษณ์ ได้แจ้งว่า หลังจากที่ตำรวจรับแจ้งความ ทางชุดสืบสวนได้ไปนำตัวนายเอก พ่อเลี้ยง มาทำการตรวจปัสสาวะ พบว่ามีสารเสพติด เบื้องจึงแจ้งข้อหา เสพยาบ้า ส่วนในกรณีข่มขืน หากสอบสหวิชาชีพแล้วจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม

ล่าสุดวันนี้ (13 ม.ค. 65) พนักงานสอบสวนได้สอบสหวิชาชีพ ด.ญ.หนึ่ง โดยเด็กให้การชัดเจน จากนั้นตำรวจสภ.กุดชุม จึงได้ควบคุมตัวนายเอก พ่อเลี้ยง ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดยโสธร ดำเนินคดีในข้อหา เสพยาบ้า, อนาจาร, และข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ทั้งนี้นางปวีณา จะได้ประสาน นายนุศาสตร์ ซาเสน หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดยโสธร เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก และมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ต่อไป