บช.น.แจงเเล้ว ทำไม มนตรี ได้เป็น รปภ. ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ

จากกรณี นายมนตรี หัวหน้า รปภ. หื่น ก่อเหตุข่มขืนลูกบ้าน เเละถูกจับกุมเเล้ว หลังหนีกบดานที่ จ.สระเเก้ว บ้านเกิด

ล่าสุด ทาง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ให้ข้อมูล ชี้แจงถึงกรณีนี้ว่า

กรณีที่1 ที่นิติบุคคลคอนโด กันไม่ให้ตำรวจขึ้นไปปฎิบัติหน้าที่นั้น ​จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้น ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ มีเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยเท่านั้น ไม่ได้มีนิติบุคคลอยู่ด้วย

ที่ผู้เสียหายได้โทรบอกเพื่อน ก่อนเพื่อนเดินทางมาถึงเวลาประมาณ 01.00 น. พนักงานรักษาความปลอดภัยได้ตรวจสอบและยังไม่ได้ให้เข้าไป

จนกระทั่งต่อมาเมื่อเวลา 01.52 น. มีการแจ้งเหตุมาที่ 191 หลังจากนั้น ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุเวลา 01.57 น. ตำรวจได้ตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิดเมื่อเวลา 02.00 น.

ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่แล้ว พนักงานรักษาความปลอดภัย ไม่ได้มีการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่อย่างใด แต่คาดว่าผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีไปก่อน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาถึง

​กรณีที่2 สังคมมีความสงสัยว่า นายมนตรี ที่เคยต้องคดีทางเพศ ได้รับใบอนุญาตพนักงานรักษาความปลอดภัยมาได้อย่างไรนั้น ทาง บช.น.ขอชี้แจงว่า นายมนตรี เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่ง

ทางบริษัทได้มายื่นขอใบอนุญาต กับ บช.น. เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 โดยในปีนั้น มีบริษัทรักษาความปลอดภัยมายื่นจำนวน 90 บริษัท มีพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหมด 4,530 คน นายมนตรี ชื่ออยู่ลำดับที่ 993 บช.น.ได้ออกใบอนุญาตไปเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562

การออกใบอนุญาตนั้น ไม่ใช่ใบรับรองความประพฤติ แต่เป็นกรณีรับรองว่ามีคุณสมบัติที่สามารถปฏิบัติงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยได้เท่านั้น

แต่เมื่อตรวจสอบแล้วทราบว่า ขาดคุณสมบัติจะทำการเพิกถอนใบอนุญาตทันที

โดยขั้นตอนในการตรวจสอบประวัติอาชญากรของพนักงานนั้น ใน กทม. มีมากกว่า 100,000 คน จึงมอบหมายให้แต่ละบริษัทนำพนักงานไปทำการตรวจสอบประวัติที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร เมื่อผลการตรวจเสร็จเรียบร้อย กองทะเบียนประวัติจะแจ้งเป็นหนังสือให้กับทางบริษัทฯ โดยตรง หลังจากนั้นแต่ละบริษัทฯ จะรวบรวมเอกสารมาเสนอที่ บช.น และเมื่อตรวจสอบเอกสารเรียบร้อยจึงเสนอออกใบอนุญาต

กรณีของนายมนตรี หลังจากทราบว่า มีประวัติถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับเพศ ถือว่าเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติ ที่จะออกใบอนุญาตได้

จึงได้ทำการเพิกถอนใบอนุญาตของผู้ต้องหาไปแล้ว ในวันที่ 6 มกราคม 2565 และ บช.น. ได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร่งด่วน