พิษรักแรงหึง เมื่อความรัก กลายเป็นเรื่องราวสุดเจ็บปวด ที่ลืมไม่ลง
วานนี้ 19 พฤษภาคม 2564 เกิดเหตุยิงกัน บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถ ถนนพัฒนากาญจน์ จ.กาญจนบุรี ก่อนจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย
ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายวัยรุ่นสองคน ถูกยิงเข้าที่บริเวณท้องน้อย นอนรอความช่วยเหลืออยู่ นอกจากนี้ ยังพบร่างของนายวิรัตน์ สืบดา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าช่าง นอนเสียชีวิตอยู่ โดยมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณกลางหน้าอก 1 นัด
โดยบริเวณจุดที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ตำรวจตรวจสอบพบปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ขนาด 7.65 ตกอยู่ 1 กระบอก พร้อมด้วยปลอกกระสุนปืน ขนาดเดียวกันตกอยู่จำนวน 4 ปลอก โดยหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บเล่าว่า มือปืนที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ ที่จอดอยู่หน้าอู่
ตำรวจตรวจสอบ พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณขมับด้านขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างรถ ทราบชื่อของผู้เสียชีวิตรายนี้ คือ นายอิทธิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี โดยที่ตัวรถ พบร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณประตูฝั่งผู้โดยสารและที่กระจกฝั่งคนขับอย่างละ 1 นัด รวมทั้ง ยังพบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ตกอยู่ข้างรถอีก 1 กระบอก โดยในรังเพลิงพบปลอกกระสุนที่ถูกยิงแล้ว จำนวน 4 นัด และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 2 นัด
สอบถามนางสาวสิริวรรณ ช้อนใจ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ให้ข้อมูลว่า นายอิทธิพงษ์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ข้างรถยนต์กระบะ มีอาชีพเป็นพ่อค้านมตามตลาดนัด และเป็นน้องเขยของนายวิรัตน์ ผู้เสียชีวิต (หัวหน้าช่างที่เสียชีวิต) โดยที่ผ่านมา นายอิทธิพงษ์ มีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้าและทำร้ายร่างกายภรรยา ซึ่งเป็นน้องสาวของนายวิรัตน์ ทำให้ภรรยาทนพฤติกรรมไม่ไหวและตัดสินใจขอแยกทางกับนายอิทธิพงษ์ ก่อนจะหนีไปอยู่กรุงเทพฯ และตัดขาดการติดต่อกับนายอิทธิพงษ์อย่างเด็ดขาด
หลังถูกภรรยาทิ้ง นายอิทธิพงษ์ พยายามมาตามหาภรรยาที่อู่ซ่อมรถ ซึ่งนายวิรัตน์ ซึ่งเป็นพี่ชายของเมียของนายอิทธิพงษ์ทำงานอยู่ แต่นายวิรัตน์ก็ไม่ยอมบอกว่าภรรยาของนายอิทธิพงษ์อยู่ที่ไหน ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุด นายอิทธิพงษ์ได้ขู่ว่าจะเอาปืนมายิงนายวิรัตน์และช่างคนอื่นในอู่ให้ตายให้หมด กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ นายอิทธิพงษ์ ขับรถมาจอดหน้าอู่ ก่อนจะเดินลงมาหานายวิรัตน์ ซึ่งกำลังยืนพูดคุยกับช่างซ่อมรถของอู่อีกสองคน จากนั้น นายอิทธิพงษ์ได้ชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงนายวิรัตน์เข้าที่กลางหน้าอก จนนายวิรัตน์ล้มลง เสียชีวิตคาที่ ส่วนช่างอีกสองคนที่อยู่กับนายวิรัตน์ ก็ถูกยิงเข้าที่ท้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังก่อเหตุ นายอิทธิพงษ์ พยายามจะเดินไปขึ้นรถกระบะที่จอดติดเครื่องไว้เพื่อหลบหนี แต่ก็ถูกช่างที่อยู่ด้านในอู่ นำเอาวุธปืนมายิงใส่จำนวน 4 นัด กระสุนถูกเข้าที่บริเวณขมับของนายอิทธิพงษ์ จำนวน 1 นัด ทำให้นายอิทธิพงษ์เสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
ขณะนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวช่างซ่อมรถที่เป็นผู้ลงมือยิงปืนใส่นายอิทธิพงษ์ ไปสอบปากคำอย่างละเอียด รวมถึงจะได้ทำการตรวจสอบภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าอู่อีกครั้ง รวมทั้ง ส่งศพของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียด เพื่อหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ในครั้งนี้ต่อไป
อีจันขอแสดงความเสียใจกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ด้วยนะคะ