ย้อนคดี อาม่าอรุณพร ถูก พนง.แบงก์ ยักยอกเงินกว่า 13 ล้าน สู้ 3 ปี จนชนะคดีได้เงินคืน

เปิดไทม์ไลน์คดี อาม่าอรุณพร ถูก พนง.แบงก์ ยักยอกเงินกว่า 13 ล้าน แต่ธนาคารชดใช้คืนไม่หมด ท้าไปฟ้องเอาเอง จนในที่สุดศาลตัดสินให้อาม่าชนะคดี

ย้อนคดี อาม่าอรุณพร ถูก พนักงานธนาคาร ยักยอกเงิน กว่า 13 ล้าน สรุปม้วนเดียวจบ ตั้งแต่เริ่มเรื่อง จนถึงวันที่ศาลตัดสินให้อาม่าชนะคดี

เรื่องนี้ถูกเล่าผ่านจากปากของ นางวันวิสาข์ ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ โดยเรื่องเริ่มต้นจาก นางอรุณพร หวังสันติพร อายุ 85 ปี หรือ อาม่าอรุณพร นำเงินรวมกันประมาณ 13 ล้านบาท ไปฝากธนาคารแห่งหนึ่ง แต่กลับถูก พนักงานธนาคาร ยักยอกเงินในบัญชี โดยมีการทำบัญชีปลอมขึ้นมา ทำให้เงินฝาก 13 ล้านกว่าบาท ไม่เข้าธนาคารสักบาท

เป็นพนักงานธนาคาร แต่กลับยักยอกเงินของลูกค้า?

เปิดไทม์ไลน์ ตั้งแต่อาม่าอรุณพร นำเงินไปฝากธนาคาร ก่อนจะรู้ตัวว่าถูกพนักงานธนาคาร ยักยอกเงิน

อาม่าอรุณพร นำเงินไปฝากกับธนาคารแห่งนี้มานานกว่า 40 ปี จนเป็นลูกค้า VIP และรู้จักกับพนักงานสาวรายนี้ที่เป็นคนก่อเหตุ ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารในขณะนั้น และทุกครั้งที่อาม่าอรุณพร มาธนาคารเพื่อฝากเงิน พนักงานคนดังกล่าวก็จะเป็นคนดูแล จากนั้นพนักงานคนดังกล่าว ได้บอกกับอาม่าว่า จะย้ายไปอยู่ที่ธนาคารสาขาตากสิน และได้ชักชวนอาม่าให้ย้ายบัญชีมาที่สาขาดังกล่าว เพื่อความสะดวกในการดูแล และตัวเองก็จะได้ผลงานจากยอดเงินฝาก

ด้วยความไว้วางใจ อาม่า จึงยอมโอนเงินมาฝากที่สาขาตากสิน กับพนักงานคนดังกล่าว

พนักงานคนนี้ ยังแนะนำอาม่าด้วยว่า บัญชีที่อาม่าเปิด จะได้ดอกเบี้ยของแต่ละบัญชีไม่เท่ากัน อาม่าจึงได้มีการทยอยเปิดบัญชี 11 บัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 13, 601,495.42 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

บัญชีที่ 1 วันที่ 14 ก.ค. 58 เปิดบัญชีเลขที่ 151-2-41703-9 จำนวน 1,800,0000 บาท เลขสมุด 5130396

บัญชีที่ 2 วันที่ 5 ต.ค. 58 เปิดบัญชี 500,000 บาท

บัญชีที่ 3 วันที่ 27 ก.ค. 59 เปิดบัญชีเลขที่ 151-2-41703 -9 จำนวน 1,000,0000 บาท เลขสมุด 5628810

บัญชีที่ 4 วันที่ 24 ก.พ. 59 เปิดบัญชี 500,000 บาท

บัญชีที่ 5 วันที่ 11 พ.ค. 59 เปิดบัญชี 2,000,000 บาท

บัญชีที่ 6 วันที่ 24 ก.พ. 60 เปิดบัญชี 1,000,000 บาท

บัญชีที่ 7 วันที่ 28 มี.ค. 60 เปิดบัญชี 400,000 บาท

บัญชีที่ 8 วันที่ 25 เม.ย. 60 เปิดบัญชี 400,000 บาท

บัญชีที่ 9 วันที่ 25 พ.ค. 60 เปิดบัญชี 200,000 บาท

บัญชีที่ 10 วันที่ 3 ก.ค. 60 นำเงินสดมาให้พนักงานธนาคาร จำนวน 1,851,495.42 บาท แต่พนักงานไม่ได้ให้สมุดมา

บัญชีที่ 11 วันที่ 2 ส.ค. 60 เปิดบัญชี 3,950,000 บาท

จาก 11 บัญชีที่เปิดมา จะพบว่า บัญชีที่ 1 และ บัญชีที่ 3 เลขบัญชีเลขที่เดียวกัน แต่เลขสมุดกลับเป็นคนละเลข ?

กลิ่นความไม่ปกติลอยมา ทำไมถึงมีเลขบัญชีเดียวกัน ?

กระทั่งเมื่อต้นปี 61 ผู้จัดการธนาคารได้โทรมาแจ้งว่า อาม่าอรุณพร ทำบัญชีเงินฝากตกไว้ในธนาคาร ทั้งที่บัญชีของอาม่าอรุณพร ก็ยังอยู่กับตัว เมื่อไปตรวจสอบพบว่าบัญชีดังกล่าว เปิดในนามของอาม่าอรุณพร แต่ลายเซ็นเพื่อเบิกถอน กลับเป็นลายเซ็นปลอม!

เรื่องนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว…

ความผิดสังเกตนี้ ทำให้ อาม่าอรุณพร นำสมุดเงินฝากไปอัปเดตเพื่อดูข้อมูล เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 61 แต่ไม่พบฐานข้อมูล จึงรู้ตัวแล้วว่า ถูกพนักงานธนาคารยักยอกทรัพย์

3 มี.ค. 61 อาม่า จึงได้เข้าแจ้งความเอาไว้ที่ สน.ปากคลองสาน และ สน.บุคคโล

ไม่กี่เดือนต่อมา พนักงานธนาคารคนดังกล่าว ก็ถูกดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ ในคดีที่ไปยักยอกเงินลูกค้าอีก 4-5 ราย โดยมีพฤติการณ์เดียวกัน

ตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง อาม่าอรุณพร ได้ไกล่เกลี่ยขอเงินคืนจากธนาคารหลายครั้ง จนกระทั่งวันที่ 23 พ.ค. 61 ธนาคารยอมคืนเงิน 10,075,629.46 บาท (เป็นเงินฝาก 9,950,000 บาท ดอกเบี้ย 125,629.46 บาท) ซึ่งเป็นเงินตามบัญชีที่ 2-9 และ บัญชีที่ 11 แต่เงินในบัญชีที่ 1 และ บัญชีที่ 10 รวม 3,651,495.42 บาท ธนาคารไม่จ่ายโดยอ้างว่า ตรวจสอบที่มาที่ไปไม่ได้ เป็นบัญชีซ้ำ เนื่องจากบัญชีที่ 1 (ยอดเงิน 1,800,000 บาท) มีการถอนเงินออกไปแล้ว และออกบัญชีที่ 3 ให้แทน

เพระเป็นเลขบัญชีเดียวกัน ซึ่งการถอนเงินนั้น น่าจะเกิดจากการที่พนักงานของธนาคารยักยอกทรัพย์มากกว่า

ส่วนเงินสดบัญชีที่ 10 (ยอดเงิน 1,851,495.42 บาท) ธนาคารแจ้งว่า นางอรุณพรได้นำเงินมาฝากในวันที่ 3

ก.ค. 60 เป็นเงินในบัญชีที่ 11 ซึ่งธนาคารคืนให้แล้ว

ธนาคารอ้างด้วยว่า เงินที่เหลืออีกกว่า 3 ล้านบาท ถ้าอาม่าอยากได้คืนให้ไปฟ้องร้องเอาเอง

28 พ.ย. 62 อาม่าจึงไปแจ้งความที่กองปราบ เพื่อขอเร่งรัดคดี และเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 62 อาม่าก็ได้เดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อธนาคารแห่งประเทศไทย

และเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 63 อาม่าอรุณพรได้มอบอำนาจให้นางวันวิสาข์ ลูกสะใภ้ และทนายรัชพล ศิริสาคร ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ทวงเงิน 3 ล้านบาท คืนจากธนาคาร

กระทั่งวันที่ 17 พ.ค. 64 ศาลได้ตัดสินให้ธนาคาร คืนเงินแก่อาม่าอรุณพร จำนวน 3,651,495.42 บาท

นางวันวิสาข์ ลูกสะใภ้ของอาม่าอรุณพรเปิดใจกับอีจันว่า หลังจากแม่ทราบคำพิพากษาก็รู้สึกดีใจที่จะได้เงินคืน เพราะเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของครอบครัว ตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ แม่รู้สึกแย่ที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ทั้งที่ไว้วางใจพนักงานธนาคารคนดังกล่าวมาก ตั้งแต่เกิดเรื่องครอบครัวต้องตามเรื่องเองตลอด ธนาคารไม่มีแม้แต่จะให้คำขอโทษ ไม่มีการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย

ด้าน ทนายรัชพล กล่าวว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว ธนาคารจะต้องทำเงินมาชดใช้ให้กับอาม่าตามคำสั่งศาลภายใน 30 วัน แม้ว่าทางธนาคารจะยื่นอุทธรณ์ก็ตาม

จันเชื่อว่าความยุติธรรมมีจริง ขอแสดงความยินดีกับอาม่าและครอบด้วยนะคะ