ย้อนคดี 4 ปี ลุงวิศวะ ยิงวัยรุ่น สุดท้ายไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลฎีกา

ผ่านไป 4 ปี คดีลุงวิศวะ ยิงวัยรุ่น สุดท้ายหนีศาลฎีกา ไม่มาฟังคำพิพากษา ล่าสุดโดนยึดเงินประกัน พร้อมถูกออกหมายจับ

คดีลุงวิศวะ ยิงวัยรุ่น ที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน วันนี้ (12 พ.ค.64) มีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง…ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษา แต่ลุงไม่มา ทำให้ศาลมีคำสั่งยึดเงินประกันกว่า 800,000 บาท พร้อมออกหมายจับ

ย้อนคดี…เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 4 ก.พ.60 บริเวณสามแยกอ่างศิลา ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรีมีกลุ่มวัยรุ่น กรูเข้ามาที่รถของ นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ หรือ ลุงวิศวะ ขณะนั้นอายุ 50 ปี และพยายามทำร้ายลุง ลุงจึงใช้ปืนที่อยู่ในรถยิง นายนวพล หรือปอน ผึ่งผาย ขณะนั้นอายุ 17 ปี เสียชีวิต

คดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่รับใบอนุญาต

ต่อมา ศาลชั้นต้น พิพากษาว่า ลุงวิศวะ สมัครใจวิวาท ไม่ยับยั้งชั่งใจ

โดยศาลพิเคราะห์ เห็นว่า จำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่รับใบอนุญาต แล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจริง ส่วนปัญหาการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น เห็นว่าเหตุคดีนี้สืบเนื่องมาจากพวกของผู้ตายซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ตู้ จอดรถที่หน้าร้านขายของฝากกีดขวางทางออกของจำเลย ทำให้มีปากเสียงกัน หลังเหตุวิวาทจบลงไป ภายหลังจากพวกผู้ตายขับรถยนต์ตู้และรถยนต์เก๋งออกไปโดยมิได้ท้าท้ายจำเลยอีก หากจำเลยมีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจ จอดรถรอสักพักหนึ่งก่อนเพื่อให้โทสะคลายลงแล้วค่อยขับรถออกไป เหตุคดีนี้คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่จำเลยกลับขับรถตามรถทั้งสองคันนั้นไปในทันที ขับแซงรถยนต์ตู้ บีบแตรยาวใส่แล้วขับไปอยู่ด้านหน้า ชะลอความเร็วลง จนเกือบจะหยุดรถเพื่อให้ชนท้าย

อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่นี่

เปิดคำพิพากษา “ลุงวิศวะ” ยิงหนุ่ม 17 ชี้ สมัครใจวิวาท ไม่ยับยั้งชั่งใจ

ศาลจึงเห็นสมควร ลงโทษจำเลยในสถานเบา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืน ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2,000 บาท รวมจำคุก 10 ปี ปรับ 2,000 บาท

ต่อมา 10 ต.ค.62 ศาลจังหวัดชลบุรี ได้นัดฟังคำพิพากษา ในชั้นอุทธรณ์ โดยศาลพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น หลังจากนั้นทนายของลุงวิศวะจึงยื่นขอประกันตัว สู้คดีในชั้นฎีกา ด้วยเงินสดจำนวน 874,000 บาท พร้อมเผยว่า “ยอมรับในคำตัดสินของศาล แต่ต้องการสู้เพื่อให้ความจริงปรากฏ อีกทั้งตนยังมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพ เป็นโรคเบาหวานและอีกหลายโรค”

ผ่านมาอีก 2 ปี

วันนี้ ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษา เวลา 09.40 น. แต่เวลาล่วงเลยไปจน 10.30 น. ที่ศาลไร้วี่แววของลุงวิศวะและทนาย ผู้พิพากษาจึงทำตามกระบวนการตามกฎหมาย คือ สั่งยึดเงินประกันจำนวน 874,000 บาท พร้อมออกหมายจับ ลุงวิศวะ โดยภายใน 1 เดือน หากจับกุมตัวได้ก็จะคุมตัวมาฟังคำพิพากษา แต่หากยังตามจับกุมตัวไม่ได้ ก็จะอ่านคำพิพากษาลับหลัง ในวันที่ 17 มิ.ย.64