ร้องอีจัน! น้องชายถูก 2 คนร้ายกระหน่ำยิง 16 นัดดับคาที่ คาดปมชู้สาว

พี่สาวร้องอีจันช่วยติดตามคดี! น้องชายถูก 2 คนร้าย หาเรื่องถึงร้าน ก่อนกระหน่ำยิง 16 นัดดับคาที่ ผู้ก่อเหตุมีอิทธิพลในพื้นที่ หวั่นคดีไม่คืบ คาดปมชู้สาว

พี่สาวร้องเรียนอีจัน! น้องชายถูกยิงดับ 16 นัด หวั่นคดีไม่คืบ

วันนี้(2 ส.ค. 64) อีจันได้รับเรื่องร้องเรียนจาก คุณแหม่ม ว่าน้องชายถูกคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนรัวยิง 16 นัด จนเสียชีวิตคาที่ บริเวณหน้าร้านขายน้ำ แด๊กๆชา ซึ่งเป็นร้านของน้องชาย อยู่ใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช คนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจเพราะห่างจาก สภ.ท่าศาลา แค่ประมาณ 500 เมตรเท่านั้น

คุณแหม่ม เล่าถึงปมรัวยิงครั้งนี้ว่า น้องชายชื่อ นายติณณ์ศรุต มากช่วย หรือวุฒิ อายุ 29 ปี เดิมคบหากับหญิงคนหนึ่ง ชื่ออุ้ม แต่ได้เลิกรากันไปเมื่อปีที่แล้ว และต่างคนต่างก็มีคนใหม่ แต่อุ้มมีหนี้สินที่เคยยืมเงินน้องชายอยู่ประมาณ 2-3 แสนบาท จึงมีการติดต่อกันเพื่อทวงถามเงินคืนอยู่บ้าง ซึ่งตัวอุ้มก็มีแฟนใหม่ไปแล้ว ชื่อนายอรรถ น้องชายเคยถูกนายอรรถข่มขู่อยู่หลายครั้ง ว่าอย่ายุ่งกับฝ่ายหญิงอีกและยังมีการข่มขู่มาถึงครอบครัวด้วย ซึ่งที่ผ่านมาน้องชายก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรกับอุ้มอีก เพราะการเลิกกันไปนั้นฝ่ายหญิงเป็นคนมีคนอื่นก่อน เท่าที่ทราบฝ่ายหญิงจะเป็นคนติดต่อมาหาน้องชายเองตลอด ครั้งล่าสุดที่มีการนัดเจอกันเมื่อคืนวันที่ 30 ก.ค. 64 บริเวณร้านขายน้ำของน้องชาย ตนไม่รู้ว่านัดมาเจอกันด้วยเรื่องอะไร แต่มาทราบข่าวอีกทีก็คือครอบครัวแจ้งว่าน้องชายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว เพราะตนอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ

คุณแหม่ม เล่าต่อว่า หลังจากทราบเรื่องก็รีบเดินทางจากกรุงเทพไปนครศรีธรรมราชทันที และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าจับภาพเหตุการณ์ 2 คนร้าย นายอรรถ (แฟนใหม่) และนายบอย ได้มาที่หน้าร้านของน้องและลากน้องชายออกมา จากนั้นมีการทำร้ายร่างกายและใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่น้องชายจนล้มลงและเสียชีวิตคาที่ จากนั้น 2 คนร้ายก็หลบหนีไปทันที ซึ่งตนได้สอบถามข้อมูลในที่เกิดเหตุกับอุ้มว่ามีใครบ้าง ก็ทราบว่ามี อุ้ม แฟนเก่าน้องชาย แม่และน้องสาวนายอรรถ (แฟนใหม่) ก็อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ส่วนปมยิงนั้น ตนคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว ที่แฟนใหม่ของฝ่ายหญิงอาจจะเกิดการหึงหวง และก่อเหตุอุกอาจดังกล่าว และตนเชื่อว่าอุ้ม แฟนเก่าน้องชาย ต้องมีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะมีนายบอย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่วัย 50 กว่าปีแล้วมาด้วย และเอาปืนมาก่อเหตุ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่านายบอยเข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร

หลังเกิดเหตุ ครอบครัวได้แจ้งความที่ สภ.ท่าศาลา จากนั้นวันที่ 1 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 14.00 น. นายสุรพงศ์ ทองเกิด หรือบอย และ นายอรรถพล คุ้มเดช หรืออรรถ (แฟนใหม่) ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันสมควร ซึ่งทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วน น.ส.อุ้ม ทราบว่าตำรวจกันไว้เป็นพยาน

ซึ่งสิ่งที่คุณแหม่มกังวลว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น เนื่องจากว่าทั้งนายอรรถ และนายบอย ต่างก็อ้างตัวว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และในเฟซบุ๊กส่วนตัวของทั้ง 2 คนร้าย ก็มักจะมีการถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นลงอยู่บ่อยๆ อีกทั้งนายบอย ได้บอกไว้ว่า จะไม่ยอมติดคุกเพราะมีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลืออยู่ ครอบครัวจึงกังวลเรื่องความปลอดภัยของคนที่บ้านและกลัวคดีจะไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่กล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์ได้ชัดเจน และมีพยานบุคคลในที่เกิดเหตุเป็นคนของฝั่งคนร้ายเองด้วย เกรงน้องชายจะตายแบบไม่ได้รับความเป็นธรรม

ขณะที่ สภ.ท่าศาลา ชี้แจงว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งมีทั้งพยานบุคคลที่เป็นประจักษ์พยาน มีพยานวัตถุในที่เกิดเหตุ และมีกล้องวงจรปิด สามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดได้ชัดเจน และชุดสืบสวนได้ออกสืบสวนติดตามคนร้าย กดดันคนร้ายทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่องตลอดมา แม้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนจะให้การปฏิเสธ แต่พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา มีพยานหลักฐานเพียงพอในการดำเนินคดี และได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันนี้(2 ส.ค. 64) พร้อมทั้งบอกด้วยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมาตามอำนาจหน้าที่ ไม่มีผู้ใด หรือกลุ่มใด มากดดันพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

ซึ่งทางคุณแหม่ม บอกด้วยว่า ครอบครัวได้ทำเรื่องขอคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวนและชั้นศาลไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าทางผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ยื่นเรื่องของประกันตัวไปหรือยัง และศาลอนุญาตให้ประกันตัวหรืไม่ก็ยังไม่ทราบ และวันนี้(2 ส.ค. 64) ครอบครัวได้นำร่างของน้องชายมาบำเพ็ญกุศลที่วัดชลธาราม จ.นครศรีธรรมราช สวดอภิธรรมเป็นคืนแรก