จากกรณี น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือ น้องหญิง อายุ 19 ปี เสียชีวิตปริศนา หลังกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายสุรพล ดาราคำ หรืออ๊อฟ อายุ 23 ปี เป็นผู้ขับรถเทรลเลอร์พาน้องหญิงไปส่งบ้าน พร้อมอ้างว่าน้องหญิงกระโดดลงจากรถจนเสียชีวิต เมื่อวันที่19 ก.ค. 61 แต่ญาติไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ โดยศาลชั้นต้นสั่งยกฟ้องนายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำ กับ น.ส.สิรินาถ หรือ เป็ด รอบรัมย์ จำเลยที่ 2 ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษากลับจำคุกตลอดชีวิตนายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำ
ล่าสุดวันนี้(5 ต.ค. 64) ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.3523/2561 หมายเลขแดงที่ อ643/2562 ที่พนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุรพล หรือ อ๊อฟ ดาราคำ จำเลยที่ 1 และ น.ส.สิรินาถ หรือเป็ด รอบรัมย์ จำเลยที่ 2 ในความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่น
โดยศาลฎีกา พิพากษาว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานฆ่าผู้ตายตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 หรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย ว่าในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง หลังจากที่จำเลยทั้งสอง นายสุรพลและผู้ตาย กลับจากการดื่มสุราที่ร้านอาหารวูฟแล้ว จำเลยที่ 1 ขับรถพ่วงสิบแปดล้อคันเกิดเหตุไปรับสินค้าที่จังหวัดนครปฐม
โดยมีผู้ตายนั่งรถไปกับจำเลยที่ 1 เพื่อไปลงที่หอพักแถวนวนคร ระหว่างทางจำเลยที่ 1 ต้องการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้ตายแต่ผู้ตายขัดขืนไม่ยินยอมจำเลยที่ 1 ใช้กำลังประทุษร้ายผู้ตายโดยใช้ของแข็งไม่มีคมตีหรือกระแทกที่ศรีษะ ซึ่งเป็นส่วนอวัยวะสำคัญของร่างกายผู้ตาย โดยแรงหลายครั้งอันเป็นการกระทำที่จำเลยที่ 1 ย่อมเล็งเห็นผลว่าจะทำให้ถึงแก่ความตายได้
เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นตามที่โจทก์ฟ้อง ส่วนฎีกาข้ออื่นของจำเลยที่ 1 ไม่ใช่สาระสำคัญที่จะทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่จำต้องวินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 มานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
คลิปแนะนำอีจัน
เตาอั้งโล่คร่าชีวิต!