เกิดเรื่องสะเทือนใจสังคมอีกแล้วค่ะ ครั้งนี้ไม่ใช่พ่อเลี้ยงหรือแม่เลี้ยง แต่กลับแป็นแม่แท้ๆ ที่ตกเป็นผู้ลงมือทำร้ายลูกตัวเอง ?
เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (14มี.ค.64) พ.ต.ท.สุทธิรัตน์ อรทัย สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุเด็กหญิงวัย 5 ขวบโดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งท้ายซอยประชาอุทิศ 27 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม.จึงเร่งรัดจัดกำลังพร้อม อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่ออาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นอพาร์ทเมนต์สูง 3 ชั้น พบผู้บาดเจ็บเป็น ด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 5 ขวบ 1 ราย สัญชาติเมียนมา ถูกชาวบ้านนำออกจากห้องพักบนแมนชั่นมาพักปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ร้านขายของชำใกล้ๆ กัน อาการแรกพบ ด.ญ.แพรว อยู่ในอาการหวาดผวา มีร่องรอยการโดนทำร้ายเป็นรอยช้ำเขียวม่วงไปทั้งตัว โดยเฉพาะที่บริเวณตาทั้งสองข้างบวมปูดปิดจนเกือบสนิท ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงรีบนำตัวส่ง รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ อย่างเร่งด่วน
จากการสอบถามผู้เป็นพ่อวัย 34 ปีของเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) กล่าวว่า ตนเคยเป็นพนักงานของโรงงานสกรีนเสื้อแห่งหนึ่งย่านทุ่งครุ อยู่กินกับภรรยา อายุ 28 ปี จนมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโตชื่อ ด.ญ.เอ อายุ 5 ขวบ ส่วนคนเล็กชื่อ ด.ญ.บี อายุ 6 เดือน
กระทั่งเมื่อ 2 วันก่อนตนต้องออกจากงานเพราะวิกฤติโควิด-19 แต่ก็ยังของานเล็กๆ น้อยๆ ประเภทแพ็คเสื้อใส่ถุง จากเถ้าแก่โรงงานสกรีนเสื้อที่ตนเคยทำ มานั่งทำกับภรรยาที่ห้องพักเพื่อหาเงินประทังชีวิตแบบรายวัน ทำให้ภรรยาเกิดความเครียดเริ่มทำร้ายลูกของตัวเอง ด้วยการตีบ้างแต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงซึ่งตนก็ห้ามปรามและปรับความเข้าใจไปแล้ว
กระทั่งช่วงเย็น ตนออกไปละหมาดที่สุเหร่า เพราะตนนับถือศาสนาอิสลาม เมื่อเสร็จแล้วตนก็เดินทางกลับมาที่พักก็พบว่าลูกสาวถูกภรรยาที่เป็นแม่แท้ๆ ทำร้าย ส่วนลูกสาววัย 6 เดือน ภรรยาได้พาหนีไปด้วย โดยไม่รู้ชะตากรรม ตอนนี้ตนเป็นห่วงลูกสาววัย 6 เดือนมาก ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เกรงว่าจะคิดสั้นทำอะไรรุนแรงมากไปกว่านี้
จากการสอบถาม เจ้าของห้องร้านค้า วัย 60 ปี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ตนเห็นว่าเด็กคนนี้มีร่องรอยเขียวช้ำบ่อยครั้ง เคยถามว่าไปโดนอะไรมา แต่เด็กก็ไม่เคยปริปากบอกเลยว่าโดนแม่ทำร้าย และจากการสังเกตพฤติกรรม เด็กคนนี้เป็นเด็กที่ขยันมากถึงแม้จะอายุเพียง 5 ขวบ ก็ซักผ้าเองได้แล้ว ทำงานบ้านทุกๆอย่าง และคอยเลี้ยงน้องวัย 6 เดือนอยู่ตลอดเวลาไม่เคยปล่อยให้น้องอยู่คนเดียวลำพังเลย ไม่น่าเชื่อว่าแม่ของน้องจะเป็นคนโหดร้ายแบบนี้
ขณะที่ พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ กล่าวว่า ทางตำรวจได้รับเรื่องราวเอาไว้แล้วและกำลังเร่งติดตามหาหญิงคนดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับลูกสาวคนเล็กวัย 6 เดือนที่พาหลบหนีไปด้วย เบื้องต้นคาดว่าน่าจะไปไม่ได้ไกล ส่วนเรื่องของคดียังไม่สรุปและยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ ต้องรอติดตามตัวแม่เด็กมาสอบสวน เพื่อพิจารณาเพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวต่อไป
ส่วนความคืบหน้าวันนี้ (15 มี.ค.64) ที่สถานีตำรวจนครบาลราษฏร์บูรณะ พ่อของน้องเอ ได้เข้าให้ข้อมูลกับฝ่ายสืบสวน สน.ราษฏร์บูรณะ และได้กล่าวกับผู้สื่อข่าว ทั้งน้ำตาว่า
ลูกสาวยังเจ็บอยู่ หมอเองก็บอกให้นอนโรงพยาบาลและดูอาการ ด้านลูกสาวอีกคน ก็ยังไม่รู้ชะตากรรม ว่าภรรยาได้พาไปไหน ตอนนี้ก็มีข้อมูลว่าอยู่แถวซอยสุขสวัสดิ์ 27 และสำเหร่ ตนก็พยายามสอบถามจากเพื่อนๆ เขา ในส่วนสาเหตุนั้น ตนเองก็ไม่ได้ทะเลาะอะไร มีแต่ห้ามปรามภรรยาเรื่องการทำร้ายลูกสาวเท่านั้น
