เปิด บทลงโทษ คดี คนร้ายบุกเดี่ยว ชิงทรัพย์ และ เผาเซเว่น ที่ เชียงใหม่

เปิด บทลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา คดี คนร้ายบุกเดี่ยว ชิงทรัพย์ และ เผาเซเว่น ที่ เชียงใหม่

จากข่าวที่อีจันได้นำเสนอไป เรื่องของคนร้ายควงมีด บุกเดี่ยวชิงทรัพย์และเผาเซเว่น-อีเลฟเว่น บริเวณหมู่ 4 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ก่อนจะหลบหนีไป โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวได้นั้น การกระทำนี้ เข้าข่ายความผิดฐาน ชิงทรัพย์ และวางเพลิงเผาทรัพย์ โดยอีจันได้หาข้อมูลข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวโยงกับการกระทำความผิดดังกล่าว โดยในเว็บไซต์ สถาบันนิติธรรมาลัย www.drthawip.com ได้ระบุข้อกฎหมายไว้ว่า ในกรณีการเผาทำลายสถานที่นั้น เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 ผู้ใดวางเพลิงเผาทรัพย์ดังต่อไปนี้ 1.โรงเรือน เรือ หรือแพที่คนอยู่อาศัย, 2.โรงเรือน เรือ หรือแพอันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า, 3.โรงมหรสพหรือสถานที่ประชุม, 4.โรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นสาธารณสถาน หรือเป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมตามศาสนา, 5.สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน หรือที่จอดรถหรือเรือสาธารณะ, 6.เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ อันมีระวางตั้งแต่ 5 ตันขึ้นไป อากาศยาน หรือรถไฟที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี

ส่วนในกรณีการชิงทรัพย์นั้น เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ 1.ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป, 2.ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น, 3.ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้, 4.ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ, 5.ให้พ้นจากการจับกุม ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท ถ้าความผิดนั้นเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดแห่งมาตรา 335 หรือเป็นการกระทำต่อทรัพย์ที่เป็นโค กระบือ เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ผู้มีอาชีพกสิกรรมมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรม ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสามแสนบาท ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท, ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท, ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต [อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560]

คลิปแนะนำอีจัน
บิ๊กตู่ มั่นใจ ไทยลดโลกร้อนได้