
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ เข้าตรวจค้น อาคารพานิชย์แห่งหนึ่ง ซอยเอกชัย 89 แขวงบางบอน เขตบางบอนกรุงเทพฯ ตามหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ 393/2567 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ร่วมจับกุม
1. Mrs.Liao อายุ 37 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาที่ 1 และบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาที่ 2-23 พร้อมของกลางที่พบมี ดังนี้
– บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3,510 ชิ้น
– น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 63 แกลลอน
– เครื่องมือสำหรับผลิตบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 8 เครื่อง
– อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 33,000 ชิ้น
– อุปกรณ์บรรจุภัณฑ์ จำนวน 9,600 ชิ้น

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้ดำเนินสืบสวนและปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาผกก.2 บก.ปอศ. จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการที่ 3 สืบสวนเรื่องดังกล่าว และจากการสืบสวนพบว่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว มีการแอบลักลอบนำเข้าอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าและนำมาประกอบยังสถานที่ดังกล่าว จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาธนบุรีเพื่อขอหมายค้น และเข้าตรวจค้นในวันที่ 15 พ.ย.67 ที่ผ่านมา จากการตรวจค้นพบว่า สถานที่ดังกล่าวเบื้องหน้าเป็นอาคารพาณิชย์ที่เหมือนผลิตเครื่องสำอางแต่เมื่อตรวจค้นภายในอาคาร กลับพบว่ามีคนงานต่างด้าวนั่งประกอบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งการกระทำดังกล่าวน่าเชื่อได้ว่าเป็นการผลิตบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีการนำเข้าอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อได้ว่าเป็นสินค้ามีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ จากนั้นพบ Mrs.Liao ผู้ต้องหาเป็นผู้นำตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว และพบชาวต่างด้าว สัญชาติเมียนมา อีก 22 ราย เป็นผู้ใช้แรงงาน จึงได้ยึดของกลางทั้งหมด อีกทั้งจับกุมตัวชาวต่างด้าวทั้งหมดนำส่ง พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้น Mrs.Liao ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ชาวต่างชาติทั้ง 22 ราย ให้การรับสารภาพมาทำงานและได้รับเงินเดือนจากผู้ต้องหา
โดยมีความผิดฐาน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 ผู้ต้องหาสัญชาติจีน มีความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 ตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ, และ “เป็นผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยตาม มาตรา 29/8 วรรคสอง หรือ มาตรา 29/9 วรรคสอง” อันเป็นความผิดตามมาตรา 56/4 แห่งคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 และความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ
ส่วนที่ 2 ผู้ต้องหา สัญชาติเมียนมา จำนวน 11 ราย มีความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ

ส่วนที่ 3 ผู้ต้องหา สัญชาติเมียนมา อีก 11 ราย มีความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และ “เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
ช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องผู้กระทำผิดกันด้วยนะคะ