
จับไปแล้วกว่า 85 ล้านบาท! แต่ก็ยังมีข้าราชการยักยอกเงินแผ่นดินอยู่ ล่าสุด ผอ.กองคลัง อบต. ใน จ.ยโสธร ทุจริตเบิกงบหลวง 9 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีส่วนตัว
วันนี้ (18 มิ.ย.68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ร่วมกันสืบสวนจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา นางวนิดา อายุ 46 ปี ผู้อำนวยการกองคลังองค์การบริหารสวนตำบลคำไผ่ ตำบลคำไผ่ อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 ที่ 13/2568 ลง 17 มิ.ย.68

กระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่ง ผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือน มีนาคม 68 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้ให้ข้อสังเกตต่อองค์การบริหารส่วนตำบลคำไผ่ ว่าอาจมีการเบิกจ่ายงบประมาณผิดปกติ ต่อมา นายก อบต.คำไผ่ ได้ตรวจสอบและพบความผิดปกติจริง จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ นางวนิดา ผู้อำนวยการกองคลัง

จากผลสอบเบื้องต้นของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พบว่า ในปีงบประมาณ 2567–2568 มีการโอนเงินจากบัญชี อบต. จำนวน 27 รายการ รวมกว่า 9 ล้านบาท โดยไม่มีหลักฐานการเบิกจ่าย
นางวนิดา ถูกกล่าวหาว่าใช้สิทธิ์ในฐานะผู้ดูแลระบบ KTB Corporate Online ดำเนินการโอนเงินไปยังบัญชีส่วนตัว รวมทั้งยังนำ USER ID และรหัสผ่านของผู้อื่นที่เกษียณอายุราชการไปแล้วมาใช้ในการเข้าระบบ เพื่อปกปิดการกระทำดังกล่าว โดยมีการยื่นหนังสือขอเปลี่ยนแปลงผู้ดูแลระบบแต่ไม่ดำเนินการส่งธนาคาร ทำให้ยังสามารถเข้าระบบและถอนเงินได้อย่างต่อเนื่อง
ผู้ต้องหาสามารถเข้าถึง USER ID และ PASSWORD ของคนอื่น ทำรายการถอนเงินจากบัญชีขององค์การบริหารสวนตำบลคำไผ่ รวมเป็นเงินกว่า 9,000,000 บาท โอนเงินไปยังบัญชีส่วนตัวของผู้ต้องหา 2 บัญชี กรณีนี้เข้าข่ายการยักยอกเงินแผ่นดินโดยทุจริต โดยตั้งแต่ปี 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. เคยทำการจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับระบบ KTB Corporate Online มาแล้วกว่า 7 ราย ดังนี้
1.อบต.นิลเพชร จำนวน 8,350,000 บาท
2.อบต.หนองหัวโพ จำนวน 4,977,412.25 บาท
3.อบต.ห้วยยายจิ๋ว จำนวน 7,141,202.08 บาท
4.อบต.โคกหล่าม จำนวน 548,420 บาท
5.อบต.นาเขลียง จำนวน 4,077,915.73 บาท
6.อบต.วังโพรง 131 ครั้ง จำนวน 44,077,951.73 บาท
7.เทศบาลลาดยาว จำนวน 15,000,000 บาท
มูลค่ารวมกว่า 85,000,000 บาท ทั่วประเทศ แต่ก็ยังคงพบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่อยู่อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ( บก.ปปป. ) จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ออกหมายจับผู้ต้องหา และขอหมายค้น จำนวน 2 จุด จนวันนี้ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ( บก.ปปป. ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. , ป.ป.ท.วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหา และเข้าค้นจุดต้องสงสัย พร้อมกัน 2 จุด ในเขตพื้นที่ จ.ยโสธร และนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
หากมีความคืบหน้าจะอัปเดตให้ทราบ







