
อุทาหรณ์! ร้านอาหารและคนที่แพ้อาหาร ก่อนหยิบอะไรเข้าปาก หรือรับออเดอร์ลูกค้า อย่าลืมเช็กให้ชัวร์ก่อน ล่าสุดมีลูกค้าแพ้กุ้งรุนแรง เกือบเสียชีวิตกลางร้านอาหารดัง ทั้งที่กำชับพนักงานแล้ว
วานนี้ (17 มิ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก chayutpol sukkaew โพสต์ข้อความแชร์ประสบการณ์การแพ้อาหารรุนแรง (Anaphylaxis) ที่เกือบถึงแก่ชีวิต ที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ระบุข้อความว่า…
“ถ้าครัวไทย อยากเป็นครัวโลก นี่คือ วาระแห่งชาติ
ไม่ได้มาประจานนะครับ แต่อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนแพ้อาหารทะเล คือ แพ้นี่แพ้จริงๆ แพ้แบบถึงชีวิตเลยนะ โพสต์นี้ผมไม่ได้โกรธร้านแต่อย่างใดนะครับ แต่อยากให้คนที่แพ้ พึงระวังไว้ เวลาทานอาหารนอกบ้าน มันทำให้เราหลอนไปเลยครับ
เรื่องมีอยู่ว่า เดิมผมเป็นคนแพ้อาหารทะเลอยู่แล้ว (กุ้ง) แล้วผมเพิ่งแอดมิดออกจากโรงบาลมาด้วยเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ด้วยสภาพจิตใจที่ดีขึ้นแล้ว เหมือนได้ชีวิตใหม่ จากอาการ anaphylaxis. คือแพ้รุนแรง แพ้แบบถึงแก่ชีวิต จนหมอต้องออกใบรับรองแพทย์ให้ พกยา adrenaline เอาไว้ฉีดยาเข้าหน้าขา ถ้าเกิดอาการขึ้นอีก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ วันนี้ควรจะเป็นวันที่ดีด้วยซ้ำ คือเรานัดญาติของเรามาทานอาหารที่ร้านนี้ แล้วบทสนทนาที่เกิดขึ้นก็คือ
ผมกำลังสั่งอาหารในเมนูของร้าน ก็ดีนะครับ มีรูปอาหารทุกอย่างที่มีรูปกุ้งกำกับไว้ ก็ดูดี ตอนแรกผมกำชับกับร้านแล้ว ทุกคนทั้งแฟนผมแล้วก็ญาติผมถามเขาเลยว่ามีเมนูไหนที่มีกุ้งบ้าง ผมกินไม่ได้นะผมแพ้รุนแรง แพ้แบบตายได้เลย น้องที่มารับออเดอร์ ก็รับทราบดี ว่าผมแพ้กุ้ง
จนเราสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ
1. กระพงสามรส
2. หมึกผัดน้ำดำ
3. เผือกทอด
4. ขนมครกปู
5. ผัดถั่วแขก
ผมให้ทายว่าจานไหนมีกุ้ง?
คำตอบคือจะรู้ไหม เพราะว่ากำชับไปแล้วว่ากินกุ้งไม่ได้นะ
สักพักพนักงาน เดินมาบอกว่า ผัดถั่วแขกมีกุ้งนะคะ เราก็โอเคเพราะว่า ยังไม่ได้ตักเข้าปาก
งั้นผมให้ทายต่อว่าจานไหนมีกุ้ง ? อ่ะคุณลองทายดู?
คำตอบคือจะรู้ไหม? ไม่มีใครรู้หรอกครับ เรารู้แค่อย่างเดียวว่าเรากำชับเขาได้ว่าเราแพ้ แบบรุนแรง
ผมตักเมนูหมึกน้ำดำเข้าปาก คำเดียว ก็รู้สึกเลยว่ามันมีกุ้ง และมันต้องเป็นกุ้งแน่ๆ
ผมหันไปถามพนักงานว่า “น้องครับเมนูหมึกผัดน้ำดำเนี่ย มีกุ้งไหม?”
เสียงผมเริ่มสั่นแล้วนะเพราะว่าเริ่มมีอาการแพ้กำเริบ
พนักงาน: มีกะปิค่ะ
เท่านั้นแหละทั้งโต๊ะผม อุทานพร้อมกันเลย “เอ้า!”

หลังจากนั้นชุละมุนเลยครับ อาการแพ้ผมกำเริบหนักขึ้น โชคดีที่ญาติที่มาอยู่ด้วย เป็นหมอ ผมรีบวิ่งไปที่รถ เพื่อไปเอายาฉีด กับเข็ม เพื่อรีบมาปักเข้ากล้ามเนื้อ หัวใจผมเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ดูจาก Apple Watch จาก 110 เป็น 120 เป็น 130 140 ลดสูงสุดที่ 153 ครั้งต่อนาที หัวใจเหมือนจะหลุดออกจากเบ้าเลยอ่ะ รู้สึกเหมือนจะตายแล้ว
ญาติผมที่เป็นหมอ ก็รีบหักยา แล้วก็ เอาเข็มดูดตัวยาขึ้นมา ยาดูดไม่ขึ้น หมอเลยพยายามดูดยาอีกรอบ แต่ดูดได้แค่ 0.2 แต่ผมต้องใช้ 0.5 ก็เลยให้หมอปักยาเข้าที่หน้าขาก่อนรอบนึง ส่วนอีกรอบหนึ่งหมอก็ดูดให้อีกครั้งนึง 0.3 แล้วก็ปักยาเข้าที่หน้าขาผมอีกครั้ง
คุณเชื่อไหมว่าพนักงานทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ผมเรียกพนักงานมาถามว่าเมนูร้าน หมึกผัดน้ำดำ ใส่กะปิ ทำไมไม่มีรูปกุ้งอยู่ พี่ไม่รู้หรอว่าผมแพ้แบบตายได้เลยอะ
พนักงานอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ถูก ตอนนั้นผมไม่ไหวแล้ว หัวใจเหมือนจะเต้น จะหลุดออกจากเบ้า ตัวสั่นหน่อยหน่อย มันตายแล้วอีกและ คือในใจไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแค่ว่า เซ็งอ่ะ คือเพิ่งออกจากโรงพยาบาลแท้ๆ กำชับกับคนอื่นไว้แล้วแท้ๆ ว่ากินกุ้งไม่ได้เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา ทำไมในครัวเค้าชุ่ยแบบนี้
ผมถามใครๆ ว่ากะปิทำมาจากอะไร ทุกคนก็รู้ทั้งนั้น ว่ามันทำมาจาก “กุ้ง” ขนาดถามพยาบาลที่โรงพยาบาลเขายังรู้เลย ว่ามันทำมาจาก ”กุ้ง“ มันน่าหงุดหงิดไหมครับแทนที่ผมจะได้กินข้าวเสร็จกลับบ้านไปนอนที่บ้าน
แล้วรู้ว่ามันจบยังไง ผมโดนส่งเข้าห้องฉุกเฉินอีกแล้ว แล้วผมโดนฉีดยาแก้แพ้แบบรุนแรงอีกแล้ว แล้วแทนที่ผมจะได้เอ็นจอยกับโมเมนต์ของญาติที่มา กับลูกค้าที่ผมนัดไว้พรุ่งนี้เพื่อที่จะไปวางแผนการเงิน ทุกอย่างต้องจบลง เพราะความไม่รอบคอบของใครบางคนในร้าน
อย่าคิดว่ามันเล่นเล่นนะครับ มันมีผลกับชีวิตของคนอื่น ผมมาที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าทำถูกแล้วที่ส่งโรงพยาบาลทัน ทำถูกแล้วที่ได้ปักยาเข้าหน้าขา
ส่วนค่ารักษาพยาบาลผมไม่ห่วงครับ ผมมีประกันมากพอ ผมโพสต์นี้เพราะแค่อยากฝากอุทาหรณ์ไว้ ถ้าคุณแพ้อาหารอะไรก็ตาม นอกจากคุณกำชับกับร้านแล้ว คุณอย่านิ่งนอนใจ คุณควรมียาฉุกเฉินพกติดตัวไว้ตลอด และร้านก็ควรมีแนวทางการปฏิบัติ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างเช่นคนที่แพ้แบบนี้อีกคุณควรเตรียมยาไว้ และเมนูที่มีกะปิ = กุ้ง นะครับ
คุณลองคิดดูนะ ถ้าผมไม่พกยานี้ไว้ที่รถ แล้วผมตายคาร้านขึ้นมา ที่เกิดจากความไม่รอบคอบของคุณมันจะเกิดอะไรขึ้น มันส่งผลเสียต่อร้านคุณมากนะครับ แล้วมันคงสร้างความแค้นใจให้กับครอบครัวของผมอย่างมาก แต่ผมไม่ได้เอาเรื่องอะไรหรอก แค่อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์เฉยๆ”

ชีวิตคนทั้งคน ทุกร้านอาหารควรคำนึงถึงเรื่องนี้กันด้วยนะคะ