
สธ. ใช้ AI ตรวจจับ แจ้งเตือนคู่ยาที่ใช้ร่วมกันแล้วส่งผลกระทบ กว่า 2,000 คู่ ช่วยแพทย์สั่งจ่ายยาให้ผู้ป่วยได้ปลอดภัย เตรียมพัฒนาระบบรุ่น 2 ขยายผล รพ.ทุกระดับภายในกันยายน นี้
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำเร็จระบบ AI Drug Interaction ใช้ AI ตรวจจับและแจ้งเตือนการใช้ยาใน 11 โรงพยาบาลนำร่อง พบคู่ยาที่ใช้ร่วมกันแล้วส่งผลกระทบ 2,220 คู่ โดยมีคู่ยาที่ห้ามใช้ร่วมกันเด็ดขาด 1,343 คู่ และหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกันเพราะอาจเสี่ยงถึงชีวิต 1,781 คู่ ช่วยแพทย์สั่งจ่ายยาให้ผู้ป่วย ได้อย่างปลอดภัย เตรียมพัฒนาระบบรุ่นที่ 2 ขยายผลครอบคลุมโรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับ ภายในเดือนกันยายน 2568

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาระบบ AI Drug Interaction ซึ่งเป็นการใช้ AI ตรวจจับและแจ้งเตือนคู่ยาที่ใช้ร่วมกันแล้วส่งผลกระทบ เช่น ทำให้ฤทธิ์ของยาเพิ่มขึ้นหรือลดลง เกิดผลข้างเคียงมากขึ้น หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต รวมถึงแจ้งเตือนยาที่แพ้และยาที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลของสถานพยาบาลในสังกัดกับฐานข้อมูลคู่ยาที่ทำปฏิกิริยาระหว่างกัน และฐานข้อมูลการแพ้ยาและยีนแพ้ยา ซึ่งเมื่อระบบตรวจสอบพบจะทำการแจ้งเตือนแพทย์ในการสั่งจ่ายยา เช่น ผู้ป่วยที่ได้รับยาลดไขมันในเลือด Simvastatin ระบบจะแจ้งเตือนว่า การใช้ร่วมกับยาต้านไวรัส Ritonavir อาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อโรคกล้ามเนื้อหรือการสลายตัวของกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น เป็นต้น ทำให้ผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาหลายชนิดพร้อมกัน หรือผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษากับสถานพยาบาลหลายแห่งมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า จากการนำร่อง AI Drug Interaction รุ่นแรกในโรงพยาบาลของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 25 แห่ง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ขณะนี้ทดสอบระบบสำเร็จแล้ว 11 แห่ง มีจำนวนยาที่ใช้ทั้งหมด 89,575 รายการ พบว่า ระบบมีการตรวจจับและแจ้งเตือนคู่ยา 2,384 คู่ ในจำนวนนี้เป็น คู่ยาที่หากใช้ร่วมกันแล้วจะเกิดผลกระทบ 2,220 คู่ โดยมีคู่ยาที่ห้ามใช้ร่วมกันเด็ดขาด 1,343 คู่ หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกันเพราะอาจเสี่ยงถึงชีวิต 1,781 คู่ และมีผลกระทบน้อย อาจไม่ต้องเปลี่ยนการรักษา 3 คู่ ช่วยให้แพทย์สั่งจ่ายยาให้ผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย โดยหลังจากนี้จะมีการพัฒนาระบบรุ่นที่ 2 ซึ่งสามารถตรวจสอบคู่ยาที่ส่งผลกระทบระหว่างกันทั้งอดีตและปัจจุบัน รวมถึงประวัติการแพ้ยา ยีนแพ้ยาและจะขยายผลการใช้งานให้ครอบคลุมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน ภายในเดือนกันยายน 2568 นี้