อุทาหรณ์! เด็ก 4 คน ถูกลักพาตัว อ้างให้พาไปหาคนรู้จักในหมู่บ้าน

เตือนภัย! อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า หญิงเมาหลอกเด็ก 4 คน ให้พาไปหาคนรู้จัก สุดท้ายลักพาตัวหนีจากหมู่บ้าน

เตือน! น้องๆ หนูๆ และผู้ปกครอง อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า ล่าสุดทำเอาวุ่นกันทั้งอุดรธานี เลยค่ะ เมื่อมีหญิงเมาขับรถมาคุยกับเด็กๆ ทำทีว่าจะไปหาคนในหมู่บ้าน แต่ไปไม่ถูก แล้วจ้างให้เด็กพาไป พอเด็กขึ้นรถเท่านั้นล่ะค่ะ ขับออกนอกเส้นทางทันที โชคดีที่มีชาวบ้านเอะใจจนตามช่วยทัน 

วานนี้ (7 ก.พ.67) เวลา 17.00 น. ศูนย์วิทยุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ ลักพาตัวเด็ก 4 คน เป็นเด็กชาย 1 คน เด็กหญิง 3 คน อายุ 9-11 ปี ขึ้นรถมิตซูบิชิ เอ็กเพนเดอร์ สีดำ จากบ้านหนองผึ้ง ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี โดยมีผู้หญิงเป็นคนขับ เมื่อได้รับแจ้ง มูลนิธิประชาธรรมกุมภวาปี ได้นำภาพเบาะแสรถคันดังกล่าวลงในเพจ ทำให้มีแชร์ออกไปจำนวนมาก  

กระทั่งเวลา 18.30 น. ได้รับแจ้งว่าสามารถสกัดจับรถคันดังกล่าวได้ที่ร้านสะดวกซื้อสาขาพันดอน ตำรวจได้เข้าจับกุม น.ส.ภัทรกร หรือกุ้ง อายุ 47 ปี ซึ่งมีอาการมึนเมาพยายามขัดขืน และช่วยเหลือเด็กทั้ง 4 คน ซึ่งอยู่ในอาการตกใจ และทุกคนยังอยู่ในชุดนักเรียน ตรวจในรถพบกระป๋องเบียร์ 2 กระป๋อง  

เมื่อผู้ปกครองและญาติมาถึงเด็กทั้ง 4 คน ได้โผเข้ากอดพ่อแม่ และญาติพี่น้องด้วยความดีใจ จากนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 4 คน พยายามจะรุมประชาทัณฑ์ น.ส.ภัทรกร ด้วยความโกรธแค้น ทำให้เกิดการชุนมุลขึ้น ตำรวจจึงต้องควบคุมตัวพร้อมรถยนต์ไป สภ.กุมภวาปี เพื่อทำการสอบสวน 

แต่เนื่องจาก น.ส.ภัทรกร มีอาการมึนเมาสุรา พูดจาไม่รู้เรื่อง จึงนำเครื่องเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์มาเป๋า ปรากฏว่าสูงถึง 210 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงแจ้งข้อหาเบื้องต้น “ขับรถในขณะมึนเมาสุรา” นำเข้าห้องควบคุม  

พ.ต.อ.วิชาญ สุธรรมแปง ผกก.สภ.กุมภวาปี ได้เชิญผู้ปกครองและเด็กทั้ง 4 คน พร้อมด้วยญาติของ น.ส.ภัทรกร ผู้ต้องหามาพูดคุยสอบถาม ญาติของ น.ส.ภัทรกร เล่าว่า น.ส.ภัทรกร เมื่อมีอาการเมาสุราหรือเบียร์จะมีอาการเพี้ยน ทำอะไรไม่คิด ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ แต่ยืนยันว่าไม่มีการรักษาอาการจิตเวชมาก่อน เรื่องเมาแล้วขับให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องลักพาตัวญาติคิดว่า น.ส.ภัทรกร คงไม่มีเจตนา  

อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองเด็กยืนยันจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด เนื่องจากหวาดกลัวในความปลอดภัยของเด็ก เกรงจะกลับมากระทำเช่นนี้อีก ถือว่าเป็นเป็นภัยสังคม หากเมาแล้วขับพาเด็กไปประสบอุบัติเหตุ อาจจะทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิต  

นางพัชราภรณ์ พลหล้า อายุ 54 ปี กรรมการหมู่บ้านหนองผึ้ง เล่าว่า เห็น น.ส.ภัทรกร ขับรถมาจอดบริเวณเด็กเล่น แล้วพาเด็กขึ้นรถ ตนเลยร้องถามว่าจะพาเด็กไปไหน คนขับบอกว่าจะให้เด็กพาไปบ้านยายเบียบ ซึ่งเป็นญาติกัน และจ้างเงินเด็กพาไป แต่เมื่อเด็กขึ้นรถแล้ว กลับไม่ได้ไปบ้านยายเบียบ แต่ขับออกไปจากหมู่บ้านไป 

พอไม่เห็นเด็กกลับมา จึงไปสอบถามยายเบียบว่ามีญาติมาพบหรือไม่ ยายเบียบก็บอกว่าไม่มีใครมาพบ ตนตกใจมาก เกรงว่าเด็กจะถูกลักพาตัว จึงได้ไปแจ้งผู้ปกครองเด็ก และแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ประกาศเสียงตามสาย ช่วยกันติดตามหารถที่ลักพาตัว และไปเอาภาพวงจรปิดที่ร้านขายของชำในหมู่บ้านไปแจ้งตำรวจ โชคดีที่ตามจับได้และพบเด็ก  

ด้าน ด.ญ.วันใหม่ เล่าว่า หลังเลิกเรียนมานั่งเล่นกันที่ลานบ้านปู่กั้ง มีผู้หญิงขับรถมาถามหาบ้านยายเบียบ และจ้างให้พาไปบ้านยายเบียบคนละ 250 บาท รวม 4 คน 1000 บาท พวกตนจึงขึ้นรถพาผู้หญิงไป แต่เขากลับขับรถออกจากหมู่บ้าน ซึ่งตนรู้สึกกลัวมาก เห็นรถจักรยานยนต์ขี่ตามหลังว่าจะร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่กล้า 

ผู้หญิงคนดังกล่าวพาขับรถไปเรื่อยๆ เสร็จแล้วพากลับมาที่ร้านสะดวกซื้อบ้านพันดอน ให้พวกตนลงไปหยิบเอาอะไรก็ได้ในร้าน ทุกคนก็ลงไปหยิบ แต่ตนได้ไปบอกผู้จัดการในร้านให้โทรหาแม่ 3 ครั้ง แม่ไม่รับสาย ซึ่งผู้จัดการก็รู้ว่าพวกตนถูกลักตัวมา และตำรวจก็มาพอดี พอมีคนช่วย ตำรวจมา พ่อแม่มา ดีใจมาก ต่อไปจะไม่ไปไหนกับคนแปลกหน้า ตามที่พ่อแม่เคยบอกไว้ว่า เขาจะพาไปตัดแขนตัดขา 

จากนั้น พ.ต.อ.วิชาญ ได้ให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ตำรวจจึงแจ้งญาติ น.ส.ภัทรกร ข้อหาเมาแล้วขับ ส่วนข้อหาลักพาตัวเด็กนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองเด็กว่าจะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ แต่ก็ให้พนักงานสอบสวนเก็บข้อมูลไว้ เพื่อดำเนินการ หากผู้ปกครองเด็กทั้ง 4 คนต้องการดำเนินคดี โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  

ระวังกันด้วยนะคะ น่ากลัวสุดๆ ยังดีที่เด็ก 4 คนนี้ถูกช่วยไว้ทัน แต่บางคนอาจไม่โชดดีแบบนี้ 


คลิปอีจันแนะนำ

ดราม่า ท้องวัยเรียน ชีวิตต้องแลกกับอะไรบ้าง