คืบหน้าคดีโยโกะ พริตตี้ร้อยล้าน ที่กำลังเป็นกระแสข่าวอยู่ ณ ตอนนี้
ล่าสุดวันนี้ (17 ม.ค. 67) นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ แม่ของโยโกะ และ น.ส.บุศยรินทร์ สหัสธัชพงศ์ น้องสาวโยโกะ พร้อมด้วย ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ที่ปรึกษาด้านกฎหมายได้เดินทางมายัง สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.พราวรวี สหัสธัชพงศ์ หรือ โยโกะ พริตตี้สาวชื่อดัง เนื่องจากแม่โยโกะยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
แม่ของโยโกะ กล่าวก่อนเข้าพบ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 ว่า ได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจนปิดตัวเดียวกัน ที่ทางคอนโดมีการอ้างว่าเป็นระบบกล้องจับภาพเคลื่อนไหว จะจับภาพได้เฉพาะตอนมีคนเดินผ่าน มาให้ทางตำรวจดูว่า กล้องวงจรปิดตัวดังกล่าว สามารถจับภาพได้ขณะที่ไม่มีบุคคลเดินผ่าน ซึ่งไม่เป็นความจริงตามคำกล่าวอ้างของทางคอนโด และเชื่อว่าช่วงที่ภาพจากกล้องวงจรปิดหายไป อาจจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้นกับโยโกะก็ได้ ซึ่งเป็นจุดที่น่าสงสัยที่สุด ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดหลังห้องของโยโกะจะต้องขอทางนิติคอนโดดูอีกครั้งว่ามีการบันทึกของวันที่ 31 ต.ค. 66 – 1 พ.ย. 66 หรือไม่ เพราะตัวแม่เองมีแค่วันที่ 30 ต.ค. 66 เท่านั้น
ส่วนตัวยังไม่เห็นการเก็บลายนิ้วมือแฝงของตำรวจ จึงยังไม่ปักใจเชื่อยังไม่เชื่อข้อมูลของทางตำรวจ และยังเชื่อว่าโยโกะไม่ได้ฆ่าตัวตายเอง ส่วนเรื่องขวดไซยาไนด์ก็ต้องดูว่าเป็นของใคร ซึ่งจะต้องมีการตรวจ DNA และลายนิ้วมือแฝง รวมไปถึงหลักฐานการสั่งซื้อว่าโยโกะสั่งซื้อหรือไม่
อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ตนเคยเดินทางมาคุยกับ พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน ซึ่งได้ข้อมูลว่า เคยมีประวัติการค้นหาไซยาไนด์ในโทรศัพท์ของโยโกะ แต่ไม่มีประวัติการสั่งซื้อ
ด้าน น.ส.บุศยรินทร์ สหัสธัชพงศ์ น้องสาวของโยโกะ ระบุว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฝ่ายชายไม่เคยติดต่อมา ซึ่งตนก็อยากให้ฝ่ายชายออกมาชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ เพราะยังคงสงสัยหลายประเด็น
อีกทั้งในช่วงหลังเกิดเหตุ ก่อนจะเป็นข่าว ฝ่ายชายเคยมีการพูดคุยกับแม่โยโกะ ซึ่งมีคำพูดบางคำไม่ตรงกัน ตอนงานศพพูดอย่าง พอคุยกับตำรวจอีกอย่างหนึ่ง เช่น การบอกนามสกุลของฝ่ายชายเองที่ไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้หลังเกิดเหตุได้มีการพูดคุยกับเพื่อนของโยโกะโดยมีทั้งหมดการตั้งข้อสงสัยเหมือนกันกับที่แม่สงสัย ส่วนการไปเที่ยวหรือการคบหากัน มีเพียงเพื่อนชายฝ่ายเท่านั้นที่รู้ และที่ผ่านมาโยโกะไม่เคยปรึกษาปัญหาส่วนตัวกับตนเลย
น้องสาวของโยโกะ ยังกล่าวอีก แชทสุดท้ายที่โยโกะคุยกับแฟนมีการคุยกันเรื่องยา แต่ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร ส่วนในวันที่ 1 พ.ย. 66 ที่มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าฝ่ายชายมานั่งรอที่ล้อบบี้ ในช่วงเวลา 02:00-04:00 แต่ไม่สามารถขึ้นห้องได้ โดยฝ่ายชายอ้างว่าไม่มีคีย์การ์ด และได้พยายามติดต่อและโทรหาโยโกะหลายสายแต่ไม่มีคนรับ
ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องตนได้ไปดูโทรศัพท์ของโยโกะ ไม่พบประวัติการโทรเข้าในช่วงเวลาดังกล่าว แต่มีประวัติการโทรตอน 08:00 น. ในวันเดียวกัน ซึ่งแม่เชื่อว่าฝ่ายชายสามารถเข้าห้องได้ เพราะคีย์การ์ดของห้องมี 2 ใบ รวมถึงฝ่ายชายก็รู้รหัสห้องด้วย
อีกทั้งก่อนหน้านี้ โยโกะเคยโดนทำร้ายประมาณ พ.ค. 66 1 ครั้ง แต่ไม่ทราบสาเหตุเพราะโยโกะไม่เคยเล่าให้ฟัง เพียงแต่ส่งภาพรอยช้ำตามตัวให้ดูเท่านั้น ซึ่งวันนี้ก็หวังว่าทางตำรวจจะนำหลักฐานมาชี้แจงให้ตรงกับคำถามที่ตนมีทุกอย่าเพื่อไขข้อข้องใจทั้งหมด
อย่างไรก็ตามครอบครัวโยโกะเตรียมประสาน แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขอความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและระยะเวลาที่จะสามารถเก็บดีเอ็นเอไปตรวจสอบได้ เพราะยังคาใจการทำงานของตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐานอยู่