เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 66 ตำรวจ PCT ร่วมกับชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายศราวุธ ไทยสยาม หรือ ไข่เล็ก อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาให้ข้อหา “ลักทรัพย์ ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า” โดยถูกจับกุมขณะที่กำลังก่อเหตุบริเวณริมถนนบางเอียน ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลาง ไขควง, อุปกรณ์การงัดแงะ และเงินสด (ต่างประเทศ) ที่ขโมยมา
นายศราวุธ ไทยสยาม หรือ ไข่เล็ก มีฉายาว่า “จอมโจรไขควงเดียว” ตำรวจต่างระดมสรรพกำลังสืบสวนติดตามเป็นเวลานานกว่าจะสามารถจับกุมได้
ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ.2549 เกิดเหตุแก๊งตีนแมวออกอาละวาดย่องเข้าไปขโมยของในบ้านประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณทล กวาดทรัพย์ไปรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 29 ล้านบาท โดยกลุ่มคนร้ายมีแผนประทุษกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะคือจะใช้เพียง “ไขควงเดียว” ในการงัดแงะเข้าไปในบ้านที่ก่อเหตุ คือจะปีนขึ้นไปบนหลังคา
จากนั้นงัดกระเบื้องมุงหลังคา แล้วสอดตัวลงไปใต้หลังคา เปิดฝ้าเพดาน แล้วหย่อนตัวลงไปขโมยทรัพย์สิน และที่เป็นที่น่าจดจำคือหลังก่อเหตุ
ซึ่งในช่วงปลายปี พ.ศ.2549 ตำรวจก็สามารถจับกุมแก๊งตีนแมวแก๊งนี้ได้ คือ “สี่พี่น้องตระกูลไทยสยาม” ต่อมาก็ได้เข้ารับโทษในเรือนจำและพ้นโทษกลับมาเข้าสู่สังคม แต่นายศราวุธ ยังคงก่อเหตุในลักษณะเดิมอยู่ จนมาถูกจับกุมอีกครั้ง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 55 ในพื้นที่ สภ.ปากช่อง และครั้งพ้นโทษออกมา แต่นายศราวุธ ก็ยังก็เหตุอีกเช่นเดิม จนมาถูกจับกุมอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 61 ในพื้นที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี
โดยล่าสุด นายศราวุธ ได้พ้นโทษออกมาเมื่อปี 65 ก็ยังกลับมาก่อเหตุอีก จึงนำมาสู่การที่ตำรวจเฝ้าติดตามพฤติกรรมเพื่อวางแผนเข้าจับกุม
กระทั่งวันที่ 15 มิ.ย. 66 คนร้ายได้ออกดูลาดเลาเลือกจุดที่จะก่อเหตุอีกครั้ง กระทั่งเวลาถึงช่วงพระอาทิตย์ตกดิน คนร้ายมีการอำพลางตัว ก่อนเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เข้าไปสู่ตัวเมืองใน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนหายเข้าไปในตรอกแห่งหนึ่ง ซึ่งชุดสืบสวนมั่นใจว่าจะมีการก่อเหตุเกิดขึ้น จึงนำกำลังปิดล้อมและจับกุม
ทั้งนี้ ในชั้นจับกุมชุดจับกุมได้แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า”
โดยนายศราวุธ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมได้เดินทางมาอาศัยเรียนปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ
หลังจากจบปริญญาตรีได้ทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่เห็นว่าได้เงินน้อยและไม่พอใช้ จึงเริ่มขโมยจากของเล็กๆ น้อยๆ เรื่อยมา และถูกจับเข้าไปอยู่ในเรือนจำแต่พ้นโทษออกมาแล้วก็ยังก่อเหตุอีกและมาถูกจับกุมอีก
ครั้งนี้ตนขอให้คำมั่นต่อตำรวจชุดจับกุมว่า หากพ้นโทษออกมาแล้ว จะไม่ก่อเหตุอีกเพราะไม่อยากติดคุกอีกแล้ว พร้อมเตือนไปยังประชาชนว่าหากไม่อยากถูกขึ้นบ้านต้อง เลี้ยงหมา และไม่เก็บทรัพย์สินไว้ในบ้าน
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า คนร้ายรายนี้ไม่เหมือนอาชญากรทั่วไป เพราะมีความรู้ ความชำนาญและทักษะในการก่อเหตุที่สูงเกินอาชญากรทั่วไปมาก เนื่องจากก่อเหตุมาอย่างโชกโชนเป็นเวลาต่อเนื่อง ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น แม้ถูกจับกุมไปถึง 3 ครั้งแล้ว พ้นโทษมาก็ยังก่อเหตุอยู่เช่นเดิมอีก จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ หากประสบเหตุขโมยขึ้นบ้านแล้วมีแผนประทุษกรรมที่คล้ายคลึงกับคดีนี้ สามารถแจ้งข้อมูลมาได้ทางเพจสืบสวนนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชั่วโมง