กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ สว.กก.6 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม นายธีระพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 180/2559 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้างในเวลากลางคืน” และ น.ส.แพรดาว (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 220/2559 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2559 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้างในเวลากลางคืน”
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 ทางบริษัทผู้เสียหาย ได้ตรวจสอบการเงินจากการขายน้ำมันของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเซีย (ทุ่งสง-หาดใหญ่) ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.-22 ก.ค. 2559 พบว่าเงินจากการขายน้ำมันได้ขาดหายไปร่วม 20 ล้านบาท คาดว่าน่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น จึงได้นำเรื่องเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งสง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบตัวผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการทั้งหมด จำนวน 18 คน โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 16 คน แต่ยังคงเหลือผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่อีก 2 คน คือ นายธีระพงศ์ และ น.ส.แพรดาว ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ต่อมา วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. จึงได้ทำการออกสืบสวนหาตัวนายธีระพงศ์ และ น.ส.แพรดาว จนทราบว่าทั้งคู่ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าย่านหมู่ 8 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ไปทำการตรวจสอบที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว พบว่าทั้งคู่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าหลังดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายธีระพงศ์ และ น.ส.แพรดาว โดยนายธีระพงศ์ ยังให้การปฏิเสธว่าตนไม่ได้ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เนื่องจากตนได้ทำงานที่ปั๊มดังกล่าวในเวลากลางวัน แต่รับว่าเงินจำนวน 20 ล้านบาทของผู้เสียหายที่ร่วมกันลักทรัพย์ ตนได้มาเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วน น.ส.แพรดาว ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากขณะเกิดเหตุตนเองไม่ได้ทำงานที่ปั๊มดังกล่าวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และได้แจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทราบและควบคุมตัวส่ง สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป