วานนี้ (5 พ.ค. 67) ตำรวจ สภ.จังหาร ได้รับแจ้งเหตุ พบศพสาวปริศนา เสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ ภายในสุสานอิ๊กลั๊กเชียงตึ้ง บ.เลิงคา ม.12 ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด จากการตรวจสอบ พบว่า ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำชี และพบศพหญิงสาวนิรนาม ถูกกิ่งไม้ปกคลุมร่างอยู่
จากการตรวจสอบสภาพศพ พบว่า สภาพศพขึ้นอืด บริเวณคอมียางในของรถจักรยานยนต์รัดไว้ และถูกมัดมือไขว้หลัง มีรอยบาดแผลที่ศรีษะ และมีรอยสักดอกกุหลาบสีแดงทที่ข้อเท้าด้านขวา แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ซึ่งในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมหลักฐาน และนำศพส่งผ่าพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อหาอัตลักษณ์บุคคล และหาสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนประสานญาติรับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (6 พ.ค. 67) น.ส.บุษกร อายุ 44 ปี แม่ของผู้ตาย ได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่า ผู้ตายเป็นลูกสาวของตน ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา โดยจดจำจากรอยสักและเสื้อผ้าที่สวมใส่ ทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.สุภัทรา อายุ 24 ปี โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้บอกกับแม่ว่า จะออกไปซื้อกับข้าวมาให้ลูก โดยผู้ตายมีลูก 2 คน อายุ 8 ขวบ และ 2 ขวบ และหลังจากนั้นก็ติดต่อลูกสาวไม่ได้อีกเลย และได้โทรถามสามีผู้ตาย ที่ทำงานอยู่ จ.ปทุมธานี ก็ไม่พบเช่นกัน
กระทั่งช่วงค่ำวานนี้ ญาติเห็นข่าวจึงได้เดินทางมาดูศพและยืนยันว่าเป็นลูกสาว เพราะจำรอยสักที่ข้อเท้าขวาได้ ตนก็รู้สึกเสียใจมาก และยังไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะลูกสาวไม่เคยแสดงท่าที หรือไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับใคร แต่มีพฤติกรรมแอบคุยโทรศัพท์คนเดียว แวลามีคนเดินผ่านก็จะหลบไม่ให้คนเห็น
เบื้องต้นชุดสืบสวน สภ.จังหาร ได้สนธิกำลังกับชุดสืบสวน ภจว.ร้อยเอ็ด และชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรภาค 4 ได้วางแผนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและหาพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุเพื่อเชื่อมโยงกับจุดที่ผู้ตายได้หายตัวไป เบื้องต้นตั้งปมการก่อเหตุไว้ให้น้ำหนักที่เรื่องชู้สาว เหตุชิงทรัพย์ และเหตุซึ่งหน้า ซึ่งจะได้ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ที่ผู้ตายทิ้งไว้กับลูกสาวก่อนหายตัวไป เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ความคืบหน้าของคดีนี้จะเป็นอย่างไร อีจันจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ