ตำรวจไซเบอร์ ล่าราชาคริปโต บุกค้นบ้านหรู เจอทรัพย์ซุกไว้ 300 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์ ล่าราชาคริปโต ค้นบ้านหรู เจอทรัพย์กว่า 300 ล้าน เจอรูป พร้อมเครื่องแบบตำรวจติดยศ แต่ติดชื่อ คนจีน

(26 ก.ค.2566) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต. 

อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. นำกำลังเข้าตรวจค้น 2 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ

จุดแรกนำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ ค.505/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค.2566 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งบ้านดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้น มูลค่า 45 ล้านบาท มีรั้วรอบขอบชิด มีแม่บ้านที่ดูแลบ้านดังกล่าวเป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบ เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในทางคดีจำนวนมาก

อีกทั้งยังพบชุดลักษณะคล้ายเครื่องแบบทหารประดับเครื่องหมายผู้กำกับสำรองตรี ระบุชื่อ สมปอง ซู อีกทั้งพบรูปถ่ายวันประดับเครื่องหมายผู้สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรผู้กำกับกำลังสำรอง รักษาดินแดนรุ่นที่ 34  พร้อมเกียรติบัตร ของสังกัดสมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทยอยู่ในห้องนอนดังกล่าว รวมทั้งหนังสือเดินทางระบุชื่อ นายซูเผิงเฟย สัญชาติจีน นอกจากนี้ในส่วนผู้ดูแลให้การยืนยันว่านายซูเผิงเฟย หรือ นายสมปอง ซู เป็นเจ้าของบ้าน อีกทั้งเป็นบุคคลคนเดียวกัน ซึ่งหลังจากที่มีข่าวจับคนจีนได้เดินทางออกนอกประเทศไป  

นอกจากนี้ตรวจยึดรถยนต์โตโยต้าอัลพาดสีขาว ทะเบียน กย 9xx กรุงเทพมหานคร , รถยนต์โตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ถ 4xxx กรุงเทพมหานคร , โฉนดที่ดินอาคารชุดย่านอโศกพระราม 9 จำนวน 8 ห้องชุด , โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ , ตู้เชฟ 1 ตู้ รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท จึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ  

จุดที่สองนำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.504/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค.2566 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ซอยกาญจนาภิเษก 12 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ  ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทแห่งหนึ่ง เบื้องต้นไม่พบว่ามีผู้พักอาศัยหรือผู้ดูแลแต่จากการสอบถามข้อมูลจากฝ่ายสถานที่ของโครงการ บ้านหลังดังกล่าวมีผู้ซื้อไปจากโครงการเเล้ว เเต่ยังไม่มีผู้มาพักอาศัยแต่อย่างใด ได้สอบถามฝ่ายขายของโครงการ ได้ข้อมูลว่า บ้านหลังดังกล่าว มีผู้ซื้อจากโครงการเมื่อประมาณเดือน พ.ย.-ธ.ค.2565 ใช้ชื่อนิติบุคคลเป็นผู้ซื้อจากโครงการ  

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลจากปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโตฯ  Ep:1 และ Ep:2 โดยครั้งนั้นบช.สอท.ได้เข้าตรวจค้น 6 จุด ในย่านศรีนครินทร์ และจับนายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และนางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665 – 1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค.2566 และนายคำเฮง จุลมนตรี  สัญชาติ ลาว ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1654/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค.2566 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน  หลังก่อเหตุใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิท ผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเซียลมีเดียต่าง ๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิตอล หรือสินทรัพย์ต่าง ๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกรม ซึ่งมีผู้เสียหายในพื้นที่ สน.ศาลาแดง , สน.โชคชัย และสภ.บางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท  

ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีความเชื่อมโยงกับนายซูเผิงเฟย หรือนายสมปอง ซู ซึ่งแนวทางสืบสวนเชื่อว่าน่าจะนำเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายมาเล่นแร่แปรธาตุ มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของบริษัท ซึ่งจดทะเบียนวันที่ 26 ต.ค.2565 ประเภทธุรกิจซื้อขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ และให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทุนจดทะเบียน 49,500,000 บาท  อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมกับออกหมายเรียกนายสมปอง ซู มาชี้แจงการได้มาซึ่งทรัพย์สิน หากไม่สามารถที่จะชี้แจงได้ก็จะเข้าข่ายในส่วนของความผิดฐาน ” ร่วมกันฟอกเงินหรือร่วมกันสนับสนุนฟอกเงิน ” และ นำทรัพย์สินที่ไม่สามารถชี้แจงได้หรือทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดดำเนินการขายทอดตลาด เพื่อมุ่งหวังคืนให้กลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งจะทำการขยายผลหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือ พยานหลักฐานเชื่อมโยงไปในส่วนใดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

คลิปอีจันแนะนำ
หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน “ภัยเงียบ” ถึงชีวิต