ปิดเทือกเขาบรรทัด ล่าเสี่ยแป้ง นาโหนด กระทบคนป่า ขาดแคลนอาหาร

จนท.ตรึงกำลังสกัดเสี่ยแป้ง นาโหนด สกัดทางเข้าออก ลาดตระเวณแนวเชิงเขา เทือกเขาบรรทัด กระทบคนป่าชาวมันนิ เริ่มขาดแคลนอาหาร

คืบหน้าจากกรณี นายชวลิต ทองด้วง หรือฉายา ”เสี่ยแป้ง นาโหนด“ นักโทษชาย ที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. 2566  เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายระดมกำลังติดตามไล่ล่าจับกุม เสี่ยแป้ง นาโหนด ซึ่งหลบหนีอยู่บริเวณเทือกเขาบรรทัด ซึ่งล่าสุดเสี่ยแป้งกบดานอยู่ในป่า เทือกเขาบรรทัด รอยต่อระหว่าง 3 จังหวัด คือพัทลุง สตูล ตรัง และทางเจ้าหน้าที่เร่งตามล่า

ไล่ไทม์ไลน์ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” สะเดาะโซ่ หนีผู้คุม คาดออกมาล้างแค้น

โดยตำรวจภูธรภาค 8 และ ภาค 9 นำกำลังปิดล้อมเทือกเขาบรรทัด ซึ่งในส่วนของ จ.สตูลนั้น มีพื้นที่ติดเขตแดน 3 จังหวัดอยู่ 2 แห่งคือบริเวณพื้นที่บ้านราวปลา ม. 9 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า และพื้นที่ถ้ำภูผาเพ็ชร ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล

โดยเฉพาะพื้นที่ อ.มะนัง นายเชษฐ บุตรรักษ์ นายอำเภอมะนัง ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง อ.มะนัง พร้อมด้วยกำนัน ต.ปาล์มพัฒนา ผช.ผญบ.ฝ่ายรักษาความสงบ ชุดชรบ.ร่วมกับจนท.ตำรวจสภ.มะนัง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นยานพาหนะ ป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งสกัดกั้นการเข้ามาของเสี่ยแป้ง นาโหนด ที่อาจจะข้ามแดนมาทางจ.สตูลได้ โดยตั้งจุดตรวจบริเวณศาลาเอนกประสงค์ บ้านปากคอกป่าพน ม.6 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการตั้งจุดตรวจจุดสกัดดังกล่าว เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ด้วยเนื่องจาก เสี่ยแป้ง นาโหนด ถือเป็นบุคคลอันตราย

นอกจากนี้ยังมีชุดตำรวจกองปราบ ร่วมกับป่าไม้ ที่ออกลาดตระเวณบริเวณเส้นทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดด้านจ.สตูล ซึ่งเป็นชุดสนับสนุนการทำงานไล่ล่า เสี่ยแป้ง นาโหนด ที่คาดว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการได้ตัวในเร็ววันนี้

นายโชคชัย หลิมมา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล บอกว่าตนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาสั่งการให้เฝ้าระวังและคอยสอดส่องบุกคนแปลกหน้าที่เดินทางเข้าพื้นที่ นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังดูแลไม่ให้ชาวบ้านและกลุ่มมานิที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ขึ้นเขาเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายละอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่

ด้านนายไพโรจน์ ดำพลับ ผู้ดูแลกลุ่มชนเผ่ามานิ (คนป่า) เล่าต่อว่า เนื่องจากมีคำสั่งห้ามชาวบ้านขึ้นเขาหาของป่า ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงกับกลุ่มชนเผามันนิที่มีอยู่ในพื้นที่ประมาณ 35 คน เนื่องจากชนเผ่ามานิต้องออกหาอาหารหรือออกล่าสัตว์ทุกวัน เมื่อไม่ได้เข้าป่าก็ไม่มีอาหาร แต่ตนเองในฐานะผู้ดูแลก็ได้เตรียมข้าวสารอาหารแห้งเอาไว้ให้บ้างแล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งปิดคดีนี้ให้ได้ เพราะส่งผลกระทบต่อพี่น้องชนเผ่ามานิและชาวบ้านในพื้นที่

คลิปอีจัน แนะนำ