สะเทือนใจ ! ลูกชาย หลอนยาบ้า ทุบหัว พ่ออัมพาต ดับคาบ้าน

สะเทือนใจ ! ลูกชาย หลอนยาบ้า ทุบหัว พ่ออัมพาต ดับคาบ้าน ประวัติพึ่งพ้นโทษเมื่อปีที่ผ่านมา ในคดีเสพยาบ้า และทำร้ายบุพการี

เมื่อวานที่ผ่านมา (7 มี.ค.2564) เวลา 13.00 น. ร.ต.อ.จิตติพัฒน์ วรวัฒน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธวัชบุรีม จังหวัดร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุ คนฆ่ากันตาย ภายในพื้นที่หมู่ 10 ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด จึงเข้าตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ชีพ อบต.อุ่มเม้า อาสาสมัครกู้ภัยอโสกธวัชบุรี และแพทย์เวร รพ.ธวัชบุรี

โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว พบศพชายนอนหงายจมกองเลือดบนพื้นบ้าน มีบาดแผลที่หน้าผาก และใบหน้าเป็นรอยแตก ศีรษะกะโหลกยุบเป็นแผลฉกรรจ์ เสียชีวิตทันทีในจุดเกิดเหตุ ทราบชื่อผู้ตายคือนายผุย สวัสดิเอื้อ อายุ 60 ปี บริเวณเดียวกันพบท่อนไม้ยาวประมาณ 30 ซม. และสาก 1 ด้าม ตกอยู่ใกล้ศพผู้ตาย

นอกจากนี้ ยังพบยาบ้าครึ่งเม็ดและอุปกรณ์การเสพอยู่ในเพิงพักของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ข้างบ้านจุดที่พบศพ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อส่งตรวจลายนิ้วมือ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป พนักงานสอบสวนร่วมกับแพทย์เวร รพ.ธวัชบุรี ชันสูตรพลิกศพในจุดเกิดเหตุ ก่อนมอบศพให้ญาติรับดำเนินประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

เบื้องต้นจากการสอบสวน นางบุญมา สวัสดิ์เอื้อ อายุ 57 ปี ภรรยาผู้ตายเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายทองดา สวัสดิ์เอื้อ (หนุ่ย) อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกชายผู้ตาย ได้เสพยาบ้าก่อนจะเมาอาละวาด โดยตะโกนว่าจะมีคนมาไล่ทำร้ายตน จากนั้นเดินถือท่อนไม้ และเสียมออกมาทุบบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จนประตูบ้านพังเสียหาย 2 บาน โดยมีลูกชายของเพื่อนบ้านเข้ามาห้ามปราม ก่อนจะเอานายทองดากลับมาส่งที่บ้าน แต่ก็อาละวาดอีกครั้ง ตนเห็นท่าไม่ดีเกรงจะถูกทำร้าย จึงได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน

ซึ่งในขณะนั้น สามีที่นอนป่วยเป็นอัมพาตติดเตียงอยู่ภายในบ้าน หลังจากที่ตนกำลังวิ่งออกไปก็ได้ยินเสียงคล้ายคนทุบตีอะไรบางอย่าง ตนจึงรีบร้องเรียกให้ชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านเข้าห้ามปรามและควบคุมตัวลูกชายไว้ได้สำเร็จ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธวัชบุรี จะควบคุมนายหนุ่ยไปสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

นอกจากนี้นางบุญมา ยังเล่าอีกด้วยว่า ลูกชาย พึ่งพ้นโทษ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา ในคดีเสพยาบ้าและทำร้ายบุพการี (แม่) โดยใช้สันมีดฟันหลังแม่ ออกมาจากคุกไม่ดื่มกินและเสพยาอยู่ประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 2564 จึงกลับมาเสพยาบ้าและเมาอาละวาดบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ได้ลงมือฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเอง ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมาก ไม่ให้อภัยและอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้ออกมาจากคุกอีก