เครือข่ายนรก ค้ายาเสพติด ลอบขนไอซ์ 1 ตัน

ตำรวจ ทหาร สนธิกำลัง รวบ เครือข่ายนรก ค้ายาเสพติด ลอบขนไอซ์ 1 ตัน

จับล็อตใหญ่…แก๊งขนยานรก (ไอซ์) กว่า 1 ตัน

วันนี้ (15 ส.ค. 64) มีรายงานการจับกุม แก๊งขนยานรกหวังกระจายขายให้เครือข่ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 63

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการสืบสวนขบวนการนรก แก๊งค้ายาเสพติดรายสำคัญในภาคกลาง ร่วมกับเครือข่ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ซึ่งมีพฤติกรรม ลอบขนยาบ้า และยาไอซ์ จากภาคเหนือและภาคกลาง ก่อนส่งมาขายให้กับเครือข่ายที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนั้นที่ด่านตรวจเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตำรวจ สามารถตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 2,018,000 เม็ด

ต่อมา ตำรวจได้ร่วมกันทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายดังกล่าว และสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายมาโดยต่อเนื่อง จนทราบว่า มีนักค้ายาเสพติดเครือข่ายดังกล่าวซึ่งเป็นคนพื้นที่ จ.นราธิวาส ร่วมกันลอบขนยาไอซ์จากภาคกลาง เพื่อส่งให้เครือในพื้นที่ จ.นราธิวาส และประเทศเพื่อนบ้าน

จากข้อมูลดังกล่าว ตำรวจจึงวางแผนจับกุมจนกระทั่ง วันที่ 13 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 02.30 น. สามารถติดตามจับกุม ตัวผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 1,000 กิโลกรัม ในขณะลักลอบลำเลียงโดยซุกซ่อนมากับรถบรรทุกสิบล้อของกลาง ได้ในพื้นที่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

หลังจากนั้นได้สืบสวนจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งรอรับยาเสพติดของกลางดังกล่าวในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จนสามารถจับกุมเครือข่ายได้เพิ่มอีก จำนวน 3 คน รวมทั้งหมด 5 คน คือ

1.นายอับดุลรอมัน อายุ 40 ปี ชาว จ.นราธิวาส

2.นายยาฮารี อายุ 33 ปี ชาว จ.นราธิวาส

3.นายซุลกิฟลี อายุ 34 ปี ชาว จ.นราธิวาส

4.นายกูอาฟิส อายุ 25 ปี ชาว จ.นราธิวาส

5.นายอาดินนันท์ อายุ 25 ปี ชาว จ.นราธิวาส

พร้อมของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน

รถบรรทุกสิบล้อ 1 คัน

รถกระบะ 2 คัน

โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง

โดยผู้ต้องทั้งหมดนี้ ตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

ทั้งนี้ได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 จำนวน 11 รายการ มูลค่าประมาณ 8,000,000 บาท และจะสืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์ของผู้ต้องหา รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับเครือข่ายที่ร่วมกระทำผิดและยังไม่ถูกจับกุมต่อไป