จากกรณีที่ ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หนองปลิง จับกุมตัว ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ปฏิบัติหน้าที่สิบเวร ตำแหน่งรอง สวป.สภ.หนองปลิง อายุ 55 ปี หลังพบว่าแอบลักลอบขายยาเสพติด พร้อมกับตรวจยึดของกลางยาบ้าได้จำนวน 40 เม็ด และเงินสดที่ถูกล่อซื้อจำนวน 1,000 บาท โดยตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หนองปลิง ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ต่อมา (23 ม.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง จ.นครสวรรค์ พบกับ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีดังกล่าว แต่งเครื่องแบบชุดตำรวจกลับมาปฏิบัติตามปกติ
โดย ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้เผยว่า ตนได้ประกันตัวเพื่อออกมาสู้คดีที่ตนถูกจับกุมและตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งวันที่ตนถูกจับกุมนั้นตนก็ได้มาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติที่ สภ.หนองปลิง หน้าที่ที่ตนรับผิดชอบคือ สิบเวรดูแลห้องควบคุมผู้ต้องหา
วันนั้นตนยืนยันว่า ถูกกลั่นแกล้ง และมีการจัดฉากให้ต้องตกเป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ บอกว่าวันที่ถูกจับกุม พร้อมกับถูกยึดเงินของกลางได้นั้น เป็นเงินที่สายของตำรวจนำมาใช้หนี้ที่เคยถูกยืมไป
“ผมไม่มีความขัดแย้งกับใครและเข้าได้กับทุกคนขนาดผมเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐยังโดนอย่างนี้ไม่มีโอกาสรับใช้ประชาชน ไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ยังไม่รู้กฎหมายและกติกาที่ว่าจะต้องทำกระบวนการอย่างไร ถ้าเป็นประชาชนหมดสิทธิ์ที่จะสู้แต่ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายก็ขอร้องจากสื่อโซเชียลช่วยเป็นกำลังใจให้ผม ที่เขาเหยียบผมลงไปให้สะท้อนกลับมาเป็นสองเท่า”
ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ยืนยันว่าเรื่องที่ตนค้ายานั้นไม่เป็นความจริงเลย เพราะตอนจับก็ไม่พบยาบ้าที่ตัว และตอนไปค้นที่ห้องพักเขาก็ไม่มีการนำตนเข้าไปร่วมตรวจค้นด้วย จึงไม่รู้ว่ายาบ้าที่เขายึดแล้วอ้างว่าเป็นของตนนั้น เขาเอามาจากไหน มันไม่ใช่ของตน ของกลางที่เขาค้นเจอในตัวก็มีแค่เงิน 1,000 บาท ที่ได้จากการใช้หนี้เท่านั้น ไม่เจอยาบ้าที่ตัวของตนสักเม็ด
เมื่อถามถึงเรื่องการตรวจปัสสาวะเจอว่ามีการเสพสารเสพติด ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ก็ยังยืนยันว่าฉี่นั้นไม่ได้เป็นของตน แต่ยอมรับว่าในอดีตเคยมีประวัติซื้อยามาเสพตั้งแต่สมัยปี 2540 แต่ก็ได้เลิกไปนานแล้ว
“ความจริงก็คือความจริง ก็เป็นไปตามกระบวนการ ถ้าไม่ผิดผมก็ขอสู้ด้วยชีวิต” ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ วิริยะบัณฑิตย์ สถิตย์สุุชาติ ผกก.สภ.หนองปลิง ยืนยันว่า ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ มีพฤติกรรมค้ายาบ้าจริง ไม่ใช่เป็นการกลั่นแกล้งตามที่ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ กล่าวอ้าง และการจับกุมในวันนั้นทางตำรวจมีหลักฐานทั้งหมด พร้อมยืนยันว่าทำตามหลักกฎหมายหมดทุกอย่าง.