เดือนเดียว ตำรวจ ปปส. ยึดยาบ้า 25 ล้านเม็ด 8 เครือข่ายยานรก!!!

แค่เดือนเดียว ! ตำรวจ ปปส. จับ 8 เครือข่ายยานรก ยึดยาบ้า ได้ 25 ล้านเม็ด บางรายพบ พ่อให้ลูกวัย 12 ปี นั่งรถมาตบตาตำรวจ หวังรอดการตรวจสอบ

กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โค่น 8 เครือข่าย

ยึดยานรก 25 ล้านเม็ด ไอซ์อีก 1,000 กิโลกรัม !!!

วันนี้ (26 มกราคม 67) ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมแถลงผลการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญของ บช.ปส. สามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดและยึดทรัพย์สินรายสำคัญ 8 คดี ผู้ต้องหา 16 คน ของกลางยาบ้า 25 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,000 กก. และยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ 15 ล้านบาท

คดีแรก

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พ.ค.66 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านพักของ “เครือข่ายนายจรัญ” สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ของกลาง ไอซ์ 36 กิโลกรัม พร้อมยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบได้กว่า 41 ล้านบาท จากนั้นได้ขยายผลพบ เครือข่ายชื่อ “หมูอ้วน” มีความเชื่อมโยงกับ “เครือข่ายนายจรัญ” จึงได้ติดตามพฤติการณ์พบว่า น.ส.คณาปภัส หรือ หมูอ้วน และ น.ส.อรัญญา ติดต่อสั่งยาบ้าจากผู้ค้าในประเทศเพื่อนบ้านให้ลำเลียงจากภาคเหนือมาส่งที่บ้านพักย่านพื้นที่ปทุมธานี

กระทั่งกลางดึกวันที่ 12 ม.ค.67 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมตัว 3 ผู้ต้องหาได้ คือนายอนุพงษ์ ขณะขับรถกระบะ ซึ่งดัดแปลงตัวถังรถเพื่อซุกซ่อนยาบ้า 1,240,000 เม็ด มาส่งให้กับ น.ส.คณาปภัส และ น.ส.อรัญญา บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบจำนวน 4 รายการ เช่น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 1 หลัง, ทาวเฮาส์ 2 ชั้น 1 หลัง,รถกระบะ และรถยนต์ อย่างละ 1 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 15 ล้านบาท

คดีที่สอง

ตำรวจ กก.1 บก.ปส.2 ตรวจสอบพบเครือข่ายลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยลำเลียงจากพื้นที่ กทม. ไปส่งกลุ่มเครือข่ายภาคใต้ ต่อมากลางดึกวันที่ 9 ม.ค.67 พบรถเป้าหมายเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เข้ามายัง กทม. เพื่อรับยาเสพติดนำไปส่งยังพื้นที่ภาคใต้ กระทั่งเช้ามืดวันที่ 10 ม.ค.67 พบรถกระบะ เป้าหมาย ขับเข้าไปจอดเติมน้ำมันภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.กุยบุรี ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นและจับกุม นายเชษฐ์พงษ์ หรือ โจ้ ซึ่งทำหน้าที่ขับรถได้บริเวณหน้าร้านกาแฟ พร้อมยาบ้าจำนวน 1.6 ล้านเม็ด อยู่บริเวณด้านหลังภายในรถยนต์ ส่วนรถยนต์สำรวจเส้นทางเร่งเครื่องยนต์หลบหนีไปได้ 

คดีที่สาม

ตำรวจ กก.1 บก.ปส.2 สืบทราบว่า มีกลุ่มเครือข่ายมักลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ กทม. ไปส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ทางภาคใต้และว่าจ้างกลุ่มคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ  ให้ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดกระทั่งเที่ยงคืนของวันที่ 15 ม.ค.67 ตำรวจได้ติดตามกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว พบความเคลื่อนไหวในเขตประเวศ กทม. ต่อเนื่องถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) มุ่งหน้าถนนพระราม 2 และตัดเข้าถนนเพชรเกษม พบรถยนต์ 2 คัน ลักษณะบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนัก ขับตามกันมา กระทั่งเวลา 03.35 น. รถทั้ง 2 คัน ขับเข้ามาในพื้นที่อำเภอปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่รถอีกคัน ขับเข้ามาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อภายในบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ปราณบุรี ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ซึ่งในระหว่างนั้น ผู้โดยสารคนที่นั่งข้างคนขับรถได้เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ แต่คนขับเห็นตำรวจจึงได้ขับรถเร่งเครื่องหวังขับหลบหนี ก่อนจะถูกสกัดรถไว้ได้

ทราบชื่อภายหลัง คือ นายปิยะวัตร์ หรือ บาส เป็นผู้ขับขี่ และควบคุมตัวนายจักรพันธ์ ได้ภายในบริเวณร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะนำตัวมาตรวจค้นรถ พบวัตถุอยู่ในกระสอบสีขาว 8 กระสอบ ภายในมีของลักษณะเป็นแพ็ก จำนวน 320 แพ็ก พบเป็นยาบ้า รวม 3,200,000 เม็ด วางอยู่บริเวณห้องโดยสารและด้านหลังของรถ ส่วนรถยนต์อีก 1 คัน สามารถติดตามจจับกุมได้บริเวณริมชายหาดหน้าโรงแรมชะอำวิลล่า พบ น.ส.เกศิณี หรือ เกด และ น.ส.วรรณวิสา หรือ เป้ 2 พี่น้อง นั่งรับประทานอาหารอยู่บริเวณริมชายหาด สอบสวน น.ส.เกศิณี สารภาพว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของผู้ว่าจ้างให้ตนขับมาเพื่อสำรวจเส้นทาง

คดีที่สี่

สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด 2 เครือข่าย เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 และ 15 ม.ค.67 ตำรวจ บก.ปส.2 จึงขยายผลทราบว่ายาเสพติดมาจาก จ.บึงกาฬ ลำเลียงส่งปลายทางกรุงเทพมหานคร ต่อมาวันที่ 24 ม.ค.67 พบความเคลื่อนไหวว่าเครือข่ายนี้จะลำเลียงยาเสพติด จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ไปส่งให้กับลูกค้าอีกครั้ง โดยใช้รถ 3 คัน ขับในลักษณะติดตามกันมาจาก จ.บึงกาฬ, จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี มุ่งหน้า ถนนหมายเลข 2 ไปทาง จ.ขอนแก่น ก่อนจะสกัดจับได้บริเวณริมถนนมิตรภาพใกล้หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านส้ม ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ต่อเนื่องบริเวณภายในปั๊มพีที สาขาโนนสูง 3  พบรถกระบะ มีนายนัฐพงศ์ หรือ นัฐ อดีตนักแข่งรถสนามภูมิภาค เป็นผู้ขับขี่ และมีเด็กอายุ 12 ปี ซึ่งพ่อและแม่เลี้ยงที่หลบหนีการจับกุมขณะนี้ถูกออกมายจับ ได้บังคับให้โดยสารมาด้วยเพื่อป้องกันการตรวจค้นของตำรวจ ซึ่งผลการตรวจค้นพบยาบ้าถูกบรรทุกอยู่ท้ายรถและห้องโดยสาร รวม 12,000,000 ล้านเม็ด ส่วนรถสำรวจเส้นทาง มี น.ส.สุรีวรรณ หรือ กิ๊ฟ และ รถปิดท้ายขบวน มีนายเทวินทร์ หรือ เอ็ม ขับขี่ ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด

คดีที่ห้า

จากการสืบสวนของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 เมื่อวันที่ 8 ม.ค.67 ที่ผ่านมา พบเครือข่ายยาเสพติดชาวเขาเผ่าลาหู่ เครือข่ายของ นายจะสอ และ นายจะติ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่าย และเตรียมวางแผนการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก กระทั่งกลางดึกของวันเดียวกัน พบรถกระบะต้องสงสัยขับออกจากบ้านผาใต้ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าไปทางพื้นที่แนวชายแดน และพบรถยนต์ 3 คัน ขับกลับมาที่บ้านผาใต้ อีกครั้งในลักษณะขับตามกันมา ซึ่งตำรวจสังเกตพบรถหนึ่งในนั้น บริเวณกระบะท้ายมีสิ่งของบรรทุกอยู่เต็ม ท้ายกระบะและมีผ้าใบพลาสติกสีดำคลุมปิดไว้ จากนั้นได้ขับมุ่งหน้าพื้นที่บ้านแม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ตำรวจที่ติดตามจึงสกัดรถไว้ แต่ผู้ขับขี่รถกระบะทั้ง 2 คัน อาศัยความชำนาญพื้นที่ขับรถหลบหนีไปได้ ก่อนจะมาพบรถกระบะ ถูกจอดทิ้งไว้ที่บริเวณกลางทุ่งนา บ้านกลางทุ่ง ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ส่วนรถกระบะอีกหนึ่งคัน ผู้ขับขี่อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง ผลการตรวจค้นรถพบยาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด 

คดีที่หก

สืบเนื่องจาก วันที่ 24 ธ.ค.2566 ขณะที่ ตำรวจ ปส.4 ประจำด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ได้สนธิกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กระทั่งพบรถกระบะสี่ประตู ต้องสงสัยจึงเรียกเข้าด่านตรวจเพื่อตรวจสอบ พบนางปราณี เป็นผู้ขับขี่ และมีนางสาวดวงกมล โดยสารมาด้วย ตรวจค้นรถเบื้องต้นพบยาบ้า ในลักษณะเป็นก้อนสีขาวถูกซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของรถ รวมจำนวน 500,000 เม็ด

ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูล นางปราณี พบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ด้วย

คดีที่เจ็ด

จากการสืบสวนข้อมูลนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ ปส.4 ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 พบว่า เครือข่ายค้ายาเสพติด มีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติด จากนอกพื้นที่นำส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และพบความเคลื่อนไหวซึ่งเชื่อว่ากำลังเดินทางไปรับยาบ้าเพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้า กระทั่งวันที่ 18 ธ.ค.66 ได้ลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถกระบะ มุ่งหน้า จ.สงขลา ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติด อ.จะนะ จึงเฝ้าระวังรถเป้าหมาย กระทั่งพบรถขับเข้าด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นพบนายมาหามะรอยาลี เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.ฮัสเมาะ นั่งข้างคนขับ จากการสอบถามทั้งคู่ยอมรับว่า ในรถมียาบ้าซุกซ่อนอยู่จริงและยินดีให้เจ้าหน้าที่นำรถไปเข้าเครื่องเอกซเรย์ ผลตรวจพบยาบ้า ซุกซ่อนอยู่ในแกลลอนและในช่องลับที่ดัดแปลงเป็นตู้ลำโพง รวมยาบ้าจำนวน 594,000 เม็ด 

คดีที่แปด

วันที่ 7 ม.ค.67 ตำรวจ บก.ปส.4 ได้รับการประสานจาก ตำรวจ บก.ปส.3 ว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางนำส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ลำเลียงผ่าน จ.นครศรีธรรมราช มุ่งหน้า จ.สงขลา กระทั่งรถเป้าหมาย ขับมาถึงแยกควนมีด มุ่งหน้า อ.จะนะ จ.สงขลา ตำรวจจึงตั้งด่านเพื่อตรวจค้น พบนายมุสตอปา เป็นผู้ขับขี่ และนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์พบไอซ์บรรจุในพลาสติกใสประทับอักษร VERY GOOD จำนวน 40 กระสอบ รวม 1,000 กก. ซุกซ่อน อำพรางทับด้วยกระสอบอาหารปลา

จากการสอบปากคำ นายมุสตอปา สารภาพว่า ไอซ์ของกลางจะนำไปส่งให้ผู้ค้าในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

สำหรับเดือน มกราคม 2567 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญ จำนวน 15 คดี ผู้ต้องหา 31 คน ของกลาง ยาบ้า 24,959,815 เม็ด, ไอซ์ 1,001 กก., เฮโรอีน 39.43 กก., โคเคน 3.655 กก. ,คีตามีน 0.098 กก. , ยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 112.17 ล้านบาท และขยายผลดำเนินคดีเครือข่ายยาเสพติดในข้อหาสมคบสนับสนุน จำนวน 18 คดี