เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ธ.ค.2565 ที่ สภ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น นายเสกสม ลินดาพรประเสริฐ นายอำเภอบ้านแฮด พร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจสภ.บ้านแฮด ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในบัญชีรายชื่อผู้ค้าของอำเภอบ้านแฮด
หลังนำกำลังเปิดปฏิบัติการทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้นในเวลา 06.34 น. ในพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด จาก 3 ตำบลของอำเภอบ้านแฮด ทั้งต.บ้านแฮด ต.หนองแซง และ ต.โนนสมบูรณ์ ซึ่งทางตำรวจและฝ่ายปกครองสามารถจับกุมทั้งผู้ค้าได้ 3 ราย ประกอบด้วย นายเทพนภา อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายในบัญชีผู้ค้ารายใหญ่ของพื้นที่อำเภอบ้านแฮด พร้อมน.ส.อุไรรัตน์ อายุ 30 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน อยู่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หนองแซง อ.บ้านแฮด และได้จับกุมพี่ชายของนางสาวอุไรรัตน์ คือนายวัชรากรณ์ อายุ 35 ปี ทั้ง 3 คนอยู่บ้านหลังเดียวกัน พร้อมของกลาง ยาบ้ารวม 1,701 เม็ด พร้อมขยายผลจับกุมผู้เสพอีก 4 ราย
พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด กล่าวว่า การเปิดปฏิบัติการดังกล่าวนั้นทางตำรวจได้บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง นำหมายค้นเข้าตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ 3 ตำบลของอำเภอบ้านแฮด ซึ่งผลการตรวจค้นตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่อำเภอบ้านแฮด ซึ่งมีรายชื่ออยู่ในบัญชีผู้ค้า พร้อมของกลางยาบ้ารวม 1,701 เม็ด และขยายผลจับกุมผู้เสพในพื้นที่อีก 4 คน รวมทั้งสิ้น 7คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้ค้าประกอบด้วย นายเทเวศ อายุ 64 ปี ในข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
พร้อมของกลางยาบ้า 612 เม็ด ในส่วนของ น.ส.อุไรรัตน์ ซึ่งเป็นแฟนสาวของนายเทเวศ และนาย วัชรากรณ์ ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดยนายวัชรากรณ์พี่ชายน.ส.อุไรรัตน์ โดนดำเนินคดีอีก 1 ข้อหาในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งฟ้องศาลฝากขังดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า แฟนสาวของผู้ต้องหารายนี้รักแฟนมาก นำยาเสพติดยัดใส่ช่องคลอดเพื่อปกปิดของกลางให้กับแฟนหนุ่ม ก่อนจะสารภาพและดึงออกมาจากช่องคลอดโดยมีปลัดอำเภอซึ่งเป็นผู้หญิงเป็นคนตรวจสอบ เมื่อนำตัวฝ่ายหญิงมาและสอบถามว่ารับยาบ้ามาจากไหน ซึ่งเจ้าตัวนิ่งเงียบร้องไห้ไม่พูดอะไร ทางเจ้าหน้าที่ก็สอบถามกับแฟนหนุ่ม ซึ่งแฟนหนุ่มหันไปถามแฟนสาวที่ร้องไห้อยู่ว่า
“อ้วน เอามาจากไหนอ้วน” แฟนสาวก็นั่งร้องไห้ไม่พูดอะไร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตรวจค้นภายในบ้านและพบยาบ้าจำนวน 612 เม็ดอยู่ในห้องนอนของนายเทพนภา ทำให้จำนนต่อหลักฐาน พร้อมขยายผลตรวจฉี่พบพี่ชายของ น.ส.อุไรรัตน์ มีปัสสาวะสีม่วง และพบยาบ้าอีก 75 เม็ด ส่วน น.ส.อุไรรัตน์นั้นไม่ตรวจฉี่ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมาสอบสวนที่ สภ.บ้านแฮด พร้อมขยายผลจับกุมผู้เสพได้อีก 4 ราย
ในส่วนการสอบสวนนั้น เบื้องต้นนายเทพนภา ซัดทอดว่ารับยาบ้ามาจากพ่อค้าในพื้นที่อ.บ้านไผ่ ซึ่งอยุ่ติดกัน และนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ โดยผู้ค้าในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ที่ผู้ต้องหารายนี้ซัดทอดนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายพ่อค้ายาเสพติดทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายเสกสม ลินดาพรประเสริฐ นายอำเภอบ้านแฮด กล่าวว่า ในส่วนของทางอำเภอนั้นมีการบูรณาการร่วมกันปราบปรามยาเสพติดกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแฮดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในพื้นที่นั้นการแพร่ระบาดยังเป็นสถานการณ์ระดับปานกลาง จากการเปิดปฏิบัติการห้วงที่ผ่านมา จับกุมผู้ค้า 24 รายผู้เสพ 369 รายและจิตเวชที่ป่วยจากยาเสพติด 171 ราย และนำเข้าสู่โครงการบำบัดยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยการร่วมมือกันระหว่างทางตำรวจ ทางอำเภอ ทางสาธารณสุขอำเภอ และทางครอบครัว เพื่อให้ลูกหลานห่างไกลจากยาเสพติด
ซึ่งอยากจะฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรตหลาน เฝ้าระวังสังเกตุดูแล เพราะปัจจุบันอายุไม่ถึง 10 ปี ก็พบว่ามีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแล้ว หากครอบครัวไหนมีบุตรหลานมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดสามารถแจ้งมาทางฝ่ายปกครองหรือทางตำรวจ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป โดยปัจจุบันมีความร่วมมือระหว่าง ปกครอง ตำรวจและสาธารณสุข มีโครงการนำผู้เสพทั้ง369 ราย เข้าสู่โครงการบำบัด เข้าสู่ระบบการคัดกรอง และนำเข้าสู่ระบบการรักษาของทางสาธารณสุข เพื่อให้ผู้เสพหายขาดจากการติดยาเสพติด โดยให้ยาและมี อสม.กำนันผู้ใหญ่บ้านเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย