ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการปราบปรามกวาดล้าง ยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด จากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและชุมชน รวมทั้งเร่งกวาดล้างจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด กับมาตรการเข้มของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่เน้นปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ ทั้งด้านการปราบปราม และด้านป้องกัน รวมทั้งความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตลอดจนถึงการสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับ
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษพัทยา กก.1 บก.ปส.2 ร่วมกับ บก.ขส. ร่วมกันจับกุม 9 ผู้ต้องหา คือ 1.นายณภัทร, 2.นายวัชระ, 3.นายวรเมธ, 4.นายภูภัคเอก, 5.นายกิตติศักดิ์, 6.นางสาวกรวิภา, 7.นายโชคเจริญ, 8.นายทัตพงษ์, 9.นายธนพล โดยจับกุมได้ที่บริเวณ ถนนสระบุรี-หล่มสัก หลักกิโลเมตรที่ 9 ต.บีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี จากการสืบสวนหาข่าวเชิงลึก และวิเคราะห์ข้อมูลจาก Big Data ประกอบกับขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติด ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทางภาคอีสาน ลงมายังภาคกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. ได้จัดชุดติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา กระทั่งทราบว่า ในวันที่ 12 พ.ย.65 แก๊งผมทองจะมีการลำเลียงยาเสพติด โดยจะใช้รถนำ รถขนยาเสพติด และมีรถปิดท้าย ในพื้นที่ จ.ลพบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงสนธิกำลังสกัดกั้นจับรถได้ทั้ง 3 คัน ตรวจค้นรถของกลาง พบยาบ้า มีตราสัญลักษณ์ Y 1 และ 999 รวม 2,200,000 เม็ด, ยาหลอนประสาท ERIMIN 5 จำนวน 40,000 เม็ด, โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง และ ตรวจยึดรถยนต์ของกลาง 3 คัน เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ชนิดร้ายแรง (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามิน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” และ “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (ไฟว์ ไฟว์ หรือ อิริมินไฟว์) เพื่อจำหน่ายเป็นการกระทำการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยให้การรับว่า รับจ้างขนยาเสพติดจากภาคอีสาน เพื่อไปส่งลูกค้าในภาคกลาง
โดยทั้งนี้ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนและขยายผลจับกุมเครือข่ายที่เหลือต่อไป สำหรับยาบ้าของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้น พนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยที่กำหนดไว้ อาทิ สำนักงาน ป.ป.ส.กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ , สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จากนั้นยาบ้าของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำลายต่อไป